ในภาวะที่ธุรกิจต่างปรับกลยุทธ์การขายเข้าสู่โลกออนไลน์เช่นนี้ ทำให้ร้านค้าและร้านอาหารต้องปรับเกมเรียกลูกค้ากันยกใหญ่ ซึ่งก็ต้องบอกว่ายุคนี้ใครมีลูกค้าสมาชิกหรือลูกค้าประจำมากกว่า ก็จะยิ่งได้เปรียบ
อย่างไรก็ตาม ในยุคที่ธุรกิจรายน้อยใหญ่ต่างโดนคลื่น COVID-19 ซัดจนแทบแน่นิ่งแบบนี้ การสร้างฐานลูกค้าสมาชิก การหาลูกค้าใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งเรียกการลูกค้าเข้าร้านเอง ก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและยากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะโดนจำกัดลู่ทางเรียกลูกค้าหน้าร้านแล้ว กำลังซื้อของลูกค้าก็อาจจะลดลง
แต่ไม่ต้องห่วง ! เพราะเรามี 5 วิธีเรียกลูกค้าเข้าร้านช่วง COVID-19 มาฝาก รับรองว่าจะดีต่อใจเจ้าของร้านค้าและร้านอาหาร แล้วก็สร้างคามประทับใจให้กับลูกค้าได้แน่นอน
1. ใช้ Loyalty Program เปลี่ยนลูกค้าหน้าใหม่ให้กลายเป็นสมาชิก
เพราะการหาลูกค้าใหม่ ๆ เข้าร้านมีค่าใช้จ่ายมากกว่าถึง 5-25 เท่า เมื่อเทียบกับการขายสินค้าให้กับลูกค้าที่มี นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า ลูกค้าขาประจำใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าใหม่ถึง 67%!
เพราะฉะนั้น หากร้านคุณยังไม่มีโปรแกรมลูกค้าสมาชิก หรือ Loyalty Program ก็ถึงเวลาแล้ว ! ลองใช้ Loyalty Program ง่าย ๆ อย่าง Beep Cashback ที่แค่ลูกค้ากรอกเบอร์โทร ก็ได้เครดิตเงินคืนไปใช้เป็นส่วนลดในครั้งถัดไปแล้ว เรียกว่าแค่ขั้นตอนเดียวก็ฟินทั้งร้านและลูกค้ากันเลยทีเดียว แล้วอีกอย่างเมื่อมีเบอร์โทรศัพท์ลูกค้าแล้ว คุณก็สามารถแจ้งโปรโมชั่นและข่าวสารดี ๆ จากทางร้านผ่าน SMS ได้เลย
แค่นี้คุณจะสร้างฐานลูกค้าสมาชิกได้ง่ายขึ้น มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น แล้วก็มีลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าที่ร้านซ้ำ ๆ มากกว่าเดิม !
2. จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้า
ภาพจาก Pixabay
รู้ไหมว่ากว่า 72% ของลูกค้าบอกว่าโปรโมชั่นมีผลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอันดับหนึ่ง? นั่นก็เพราะว่าใคร ๆ ก็ชอบของถูกของดี ! โปรโมชั่น, ส่วนลด, ดีล, หรือคูปองต่าง ๆ จึงเป็นวิธีเรียกลูกค้าเข้าร้านชั้นยอด ที่ร้านค้าและร้านอาหารต่างก็ใช้กันในปัจจุบัน
แล้วโปรโมชั่นก็ไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าขาประจำกลับมาซื้อสินค้าที่ร้านเท่านั้น แต่ยังเรียกลูกค้าใหม่ พร้อมช่วยให้ตัดสินใจซื้อสินค้าร้านคุณได้ง่ายขึ้นด้วย (มีการศึกษาของ Inc. ระบุว่า 80% ของลูกค้ารู้สึกอยากซื้อสินค้ากับแบรนด์เป็นครั้งแรก เพราะส่วนลดและข้อเสนอจากทางร้าน) และวิธีจัดโปรโมชั่นที่ได้ผลสำหรับร้านค้าและร้านอาหารก็มีดังนี้
ร้านค้า:
- ซื้อ 1 แถม 1 โปรโมชั่นที่ได้ผลดีเสมอมาทั้งหน้าร้านและเว็บไซต์ขายของออนไลน์ต้องยกให้ซื้อ 1 แถม 1 เพราะคำว่า “แถม” หรือ “ฟรี” ช่วยให้ลูกค้าเห็นถึงความถูก ความคุ้มค่า และตัดสินใจซื้อได้ไวขึ้น
- ส่วนลด 50% การมอบส่วนลดก็ถือเป็นวิธีเรียกลูกค้าเก่าและใหม่ที่ดี ซึ่งตัวอย่างของการลดราคาที่ดีก็มีทั้ง ซื้อสินค้าชิ้นที่ 2 ลด 50% ลดสินค้ามาใหม่ 10% และซื้อชิ้นที่ 2 ลดเหลือ 1 บาท เป็นต้น
- แลกซื้อ เลือกสินค้าที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย (ระบบจัดการร้านที่ดีจะช่วยให้คุณรู้ข้อมูลตรงนี้) จากนั้นก็จัดโปรโมชั่นแลกซื้อได้เลย เช่น ซื้อเครื่องสำอางครบ 500 บาทรับฟรีลิปสติก 1 แท่ง ซื้อกางเกงยีนส์รุ่น Limited Edition ในราคา 1,200 บาท (ราคาเต็ม 1,800 บาท) เมื่อมียอดซื้อสินค้าในร้าน 1,000 บาท เป็นต้น
- ส่งฟรี โปรโมชั่นส่งฟรีก็ถือว่าเป็นการตลาดที่ได้ผล เพราะคงไม่มีใครอยากสั่งซื้อสินค้าออนไลน์แล้วจ่ายแพงกว่าหน้าร้านล่ะ จริงไหม ? ดังนั้นลองกำหนดราคาขั้นต่ำสำหรับส่งฟรีดู รับรองเวิร์กแน่
ร้านอาหาร:
- ลดราคา ร้านอาหารของคุณควรมีโปรโมชั่นลดราคาไว้เอาใจสายกิน เช่น ลดราคา 10% สำหรับออร์เดอร์แรก ลดราคาเซ็ตอาหารกลางวัน/ดินเนอร์ และลดราคาเครื่องดื่มเมื่อซื้อคู่กับเมนูแนะนำ เป็นต้น
- โปรโมชั่นสมาชิก มอบคะแนน เครดิตเงินคืน หรือส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก เพื่อให้ลูกค้าประทับใจและรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือกสั่งอาหารจากร้านคุณ เช่น แจกฟรีเครื่องดื่ม ซื้อเมนูแนะนำสะสมแต้มคูณ 2 และซื้อ 1 แถม 1 สำหรับอาหารหรือเครื่องดื่มบางรายการ เป็นต้น
- เซ็ตครอบครัว โปรโมชั่นเซ็ตครอบครัวถือว่านิยมเป็นอย่างมากในช่วงกักตัว ดังนั้นลองจัดเซ็ตเมนูอาหารและเครื่องดื่มครอบครัว แล้วก็ขายในราคาพิเศษดู
ทั้งนี้ร้านค้าปลีกและร้านอาหารสามารถจัดโปรโมชั่นได้ตามความเหมาะสม แล้วอีกอย่างต้องไม่ลืมที่จะคิดนอกกรอบเพื่อเอาใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
3. ใช้ Social Media ให้เป็น
ภาพจาก Freepik
Social Media คือตัวกลางสำคัญในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าของคุณ และช่องทางที่คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ ก็มีทั้ง
- เพจเฟสบุ๊ค
- ไอจี
- ไลน์
- ทวิตเตอร์
ดังนั้นลองนำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังของร้าน ที่มาของแบรนด์ การปรุงเมนูอาหารแต่ละอย่าง หรือความพิเศษของเครื่องดื่มแต่ละเมนู เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสินค้าในร้านและสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า
คุณสามารถจัดแคมเปญแข่งขันสำหรับลูกค้าออนไลน์ และแจกส่วนลดเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสั่งซื้อและสั่งอาหาร เช่น แจกส่วนลด 15% สำหรับ 10 คอมเมนต์แรก ฟรีเครื่องดื่มสำหรับลูกค้าที่เชิญชวนไลค์เพจ
นอกจากนี้คุณก็สามารถบอกต่อข้อมูลข่าวสารและส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ให้ลูกค้าได้ด้วย เช่น หากร้านคุณมีโครงการช่วยเหลือโรงพยาบาลหรือทีมแพทย์ในการสู้ภัย COVID-19 ก็สามารถแชร์และเชิญชวนแฟนเพจเข้าร่วม หากคุณแจกหน้ากากอนามัยหรือทำอาหารเลี้ยงทีมแพทย์ ก็สามารถบอกเรื่องราวดี ๆ นี้ให้กับผู้ติดตามร้านได้ หรืออีกหนึ่งไอเดียก็คือ คุณสามารถรังสรรค์เมนูพิเศษ หรือจัดแคมเปญสินค้าขึ้นมา และนำรายได้บางส่วนไปบริจาคช่วยเหลือคนที่ลำบากช่วง COVID-19 ก็ได้
เพียงเท่านี้ ลูกค้าของคุณก็เต็มใจจ่ายและสนับสนุนโครงการดี ๆ ของคุณแล้ว ที่สำคัญต้องโปรโมทร้านให้เป็น ไม่เน้นขายเพียงอย่างเดียว และโพสต์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียของร้านอย่างสม่ำเสมอ
4. หน้าตาร้านบน Google ต้องดูดี
ภาพจาก Freepik
รู้ไหมว่าคุณสามารถสร้างยอดขายจาก Google ได้เลยทันที หากร้านของคุณดูดีมากพอ?
ก่อนหน้านี้คุณอาจจะยุ่ง ๆ กับหน้าร้านจนไม่มีเวลาให้ความสำคัญกับข้อมูลร้านบนโลกออนไลน์ แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะบุกเกมและทำให้ร้านสวยงามสะดุดตาลูกค้าบน Google แล้ว ซึ่งเครื่องมือสำคัญก็คือ Google My Business โดยคุณจะต้องใส่ข้อมูลร้านให้ครบและใส่คีย์เวิร์ดให้เป็นตามหลักการทำ SEO สำหรับ Google My Business
แล้วต้องใส่ข้อมูลร้านอะไรบน Google My Business บ้าง ?
คำตอบก็คือ
- ชื่อร้าน
- ช่องทางการติดต่อร้าน ได้แก่ ที่อยู่, เบอร์โทร, เส้นทาง และเว็บไซต์ (เป็นลิงค์เว็บไซต์ร้าน เพจเฟสบุ๊ค หรือไอจีก็ได้)
- เวลาเปิด-ปิด
- สินค้ามาใหม่หรือเมนูน่าลอง
- ภาพและวิดีโอที่น่าสนใจ ต้องเป็นภาพและวิดีโอที่คมชัดเท่านั้น
เมื่อคุณมีข้อมูลครบพร้อมกับภาพและวิดีโอที่สวยเกินต้านแล้ว ลูกค้าก็จะอยากสั่งสินค้าและสั่งอาหารร้านคุณมาทานแน่นอน !
5. มอบความสะดวกสบายให้ลูกค้า
ในยุคที่การซื้อขายไร้ขีดจำกัด ความสะดวกสบายคือทางเลือกหลักของลูกค้า เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะมีร้านค้าออนไลน์หรือร้านอาหารต้องคำนึงถึงสิ่งนี้เป็นอันดับต้น ๆ เช่น
- มีเว็บไซต์ขายของออนไลน์เป็นของตัวเอง
- เว็บไซต์ที่สวยงาม ใช้งานง่าย
- เว็บโหลดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
- ทางเลือกการจ่ายเงินที่มากกว่า 1 คือรองรับทั้งเงินสด, Online Banking, การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต/เดบิต, LINE Pay, Alipay และ WeChat Pay เป็นต้น แต่สำหรับช่วงวิกฤต COVID-19 เช่นนี้ ควรเลี่ยงเงินสด ควรสนับสนุนให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์หรือจ่ายผ่าน e-Wallet เพื่อลดการสัมผัส (Contactless Payment)
- มีบริการ Food Delivery ร้านอาหารควรมีบริการส่งอาหารถึงหน้าบ้านลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวก ให้ลูกค้าทานของอร่อยได้โดยไม่ต้องออกบ้านไปเสี่ยง
สามารถนำไปใช้ได้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิธีที่เรานำเสนอจะช่วยให้ร้านของคุณเข้าถึงลูกค้าและกระตุ้นให้ลูกค้ามาใช้จ่ายที่ร้านได้มากขึ้น
ซึ่งหากร้านคุณมีครบทั้ง 5 อย่าง คือ Loyalty Program สร้างลูกค้าสมาชิก, การจัดโปรโมชั่น, คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย, ข้อมูลที่ครบถ้วนและสวยงามของร้านบน Google My Business รวมถึงความสะดวกสบายของลูกค้า รับรองว่าร้านคุณก็จะมีลูกค้าสมาชิกกับลูกค้าใหม่ ๆ กลับมาซื้อสินค้าหรือสั่งอาหารบ่อย ๆ แล้ว คราวนี้ทั้งร้านและลูกค้าก็จะแฮปปี้มากขึ้นในช่วง COVID-19 นี้แน่นอน !