หากคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ Beep Delivery ฟีเจอร์ Food Delivery จากสโตร์ฮับ วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับฟีเจอร์นี้กันให้มากขึ้น ขอบอกว่ามีดีกว่าค่าดำเนินการแสนถูกนี้แน่นอน
ถ้าพร้อมแล้ว ไปทำความรู้จักกับ Beep Delivery ในมุมใหม่ ๆ กันดีกว่า
Beep Delivery คืออะไร ?
Beep Delivery คือ ฟีเจอร์ส่งอาหารที่มอบความสะดวกสบายให้กับร้านอาหารและลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน มาพร้อม Automation ระบบอัตโนมัติที่ช่วยให้เจ้าของร้านอาหารปิดการขายได้เร็วขึ้น ในส่วนของลูกค้าก็เลือกเมนูบนเว็บไซต์ของร้านได้เลย ไม่ต้องทักแชท หรือรอร้านตอบให้เสียเวลา
นั่นก็เพราะว่า . . .
แค่เพียงร้านอาหารเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ก็จะได้ลิงค์ไปโปรโมทเว็บไซต์ Food Delivery ของร้านเอง ให้ร้านเป็นอิสระจากมาร์เก็ตเพลส ไม่ต้องพึ่งเว็บใหญ่ หรือจ่ายค่าดำเนินการแพง ๆ อีกต่อไป เพราะที่จริงแล้วร้านอาหารมักจะมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องแจ้งให้ลูกค้ารู้เมื่อมีบริการเดลิเวอรี่ก็เท่านั้น
ข้อดีของ Beep Delivery ที่จะทำให้ร้านอาหารและลูกค้าหลงรัก

ร้านอาหาร:
Beep Delivery สามารถช่วยคุณเจ้าของร้านอาหารประหยัดเวลาและเพิ่มยอดขายได้มากกว่าเดิม
ซึ่งหากคุณมีลูกค้าจากโซเชียลมีเดีย ?
ต้องตอบแชทลูกค้าอยู่บ่อย ๆ ?
มีปัญหาในการจัดการออร์เดอร์ ?
หรือรับคำสั่งอาหารจากหลายช่องทางจนจัดการไม่ได้ ?
ทำไมไม่ให้ Automation ของตัวระบบ Beep Delivery ช่วยคุณแก้ปัญหาเหล่านี้ล่ะ ?!?
เพราะคุณจะจัดการได้ครบในเว็บเดียว !
แล้วคุณเจ้าของร้านอาหารจะประหยัดเวลาได้มากขึ้นในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การสั่งอาหารจนถึงการส่งตรงถึงหน้าบ้านลูกค้าเลยล่ะ
ลูกค้าร้านอาหาร:
Beep Delivery ช่วยให้ลูกค้าสนับสนุนร้านอาหารในพื้นที่หรือคาเฟ่โปรดได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องออกบ้านให้เสี่ยง เพียงแค่ทำตาม 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ไปที่เว็บไซต์ร้าน xxx.beepit.com
- เลือกว่าจะให้ “ส่งอาหารเดลิเวอรี่” หรือ “มารับอาหารที่ร้านเอง”
- เลือกดูเมนูที่ต้องการทานและกดสั่ง
- ใส่ที่อยู่ในการส่งอาหารและรายละเอียดต่าง ๆ
- จ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, LINE Pay หรือ Ewallet
- เรียบร้อยแล้ว ! รอรับอาหารได้เลย !
เท่านี้ความอร่อยก็จะส่งตรงถึงหน้าบ้านลูกค้า และลูกค้าก็ได้ทานเมนูโปรดง่าย ๆ
ราคา Beep Delivery พร้อมค่าใช้จ่ายและฟีเจอร์ที่ร้านอาหารจะได้รับเมื่อเปิดใช้งาน

หากคุณเจ้าของร้านอาหารสงสัยในส่วนของราคาและค่าใช้จ่ายของ Beep Delivery ก็มีดังนี้ :-
- ค่าบริการเริ่มต้น POS 2,500 บ./เดือน
- ค่าจ่ายเงินผ่านบัตร 2.7% หรือ 3% สำหรับ ewallet
- ค่าขนส่งเริ่มต้นที่ 85 บาท* หรือร้านค้าเลือกส่งอาหารเองได้
ในส่วนของค่าขนส่งทางร้านสามารถช่วยซัพพอร์ตลูกค้าได้ พาร์ทเนอร์ของเราคือLalamove กับ Skootar บริษัทขนส่งแถวหน้าของไทยที่มีไรเดอร์สแตนด์บายคอยรับ-ส่งอาหารตลอดทั้งวัน คุณจึงวางใจได้ในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว รวมถึงมาตรการส่งอาหารอย่างมืออาชีพและความปลอดภัยของลูกค้า
ในส่วนของฟีเจอร์ที่พ่วงมากับ Beep Delivery ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมาก ๆ เพราะ Beep Delivery ไม่ใช่แค่ระบบส่งอาหาร แต่ยังมีคุณสมบัติโดดเด่นอีกมากมาย ดังนี้ :-
✅ ตัว Automation ออกแบบมาเพื่อร้านอาหารโดยเฉพาะ
✅ ไม่ต้องเสียเวลาตอบไลน์หรือข้อความลูกค้า
✅ รับแจ้งเตือนออร์เดอร์อัตโนมัติ ให้ร้านอาหารใส่ใจกับทุกเมนูได้เต็มที่และเพิ่มยอดขายร้านได้รัว ๆ
✅ มีลิงค์เป็นของร้านคุณเอง ไม่ต้องไปฝากขายกับแพลตฟอร์มอื่น
✅ ร้านอาหารปรับราคา เพิ่มเมนู และเแต่งภาพอาหารได้ทุกเมื่อตามใจชอบ
✅ มีระบบ Tracking ติดตามออร์เดอร์ได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
✅ มีไรเดอร์จากพาร์ทเนอร์โลจิสติกส์มืออาชีพไปรับอาหารและส่งความอร่อยถึงมือลูกค้า
✅ พรีออร์เดอร์ ขายได้แม้ร้านปิด
✅ ระบบสามารถตัดเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, LINE Pay
✅ ฟีเจอร์มาพร้อมระบบ POS ให้จัดการร้านอาหารได้ครบในหนึ่งเดียว
✅ ติดตามสต๊อกวัตถุดิบแบบแยกส่วน
✅ เก็บชื่อและเบอร์โทรลูกค้าอัตโนมัติ
✅ Beep Cashback: Loyalty Program แบบเงินคืน เปลี่ยนลูกค้าหน้าใหม่ให้กลายเป็นขาประจำ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่ร้านอาหารจะได้เมื่อเปิดใช้งาน Beep Delivery กับสโตร์ฮับ เพราะเราอยากช่วยเหลือร้านอาหารให้มีเงินเหลือไปจัดการร้านในส่วนอื่น และไปต่อได้หลังจากโดนผลกระทบ COVID-19 กันมาแบบเต็ม ๆ
***หมายเหตุ: ตอนนี้ Beep Delivery ครอบคลุมแค่กรุงเทพเท่านั้น หากกระแสตอบรับดี เราขยายพื้นที่ให้บริการแน่นอน
Beep Delivery เหมาะกับร้านอาหารแบบไหน ?
ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ หรือร้านอาหารประเภทไหนก็สามารถใช้งาน Beep Delivery ได้ทั้งนั้น
เพียงแต่เราอยากแนะนำว่า ร้านควรมี Basket Size ที่เหมาะสม จึงจะคุ้มกับค่าส่ง ซึ่งเราแนะนำว่ายอดสั่งซื้อควรอยู่ที่ 300-500 บาทขึ้นไป แต่ถ้าร้านเลือกส่งอาหารให้ลูกค้าเอง สามารถใช้ได้หมดทุกประเภท หรือถ้าลูกค้ามารับอาหารที่ร้านก็จะประหยัดค่าส่งได้ แล้วร้านก็ยังคงใช้ประโยชน์จากตัว Automation ได้เช่นเดิม
สุดท้ายนี้เราอยากจะบอกว่า เราพัฒนาฟีเจอร์ Beep Delivery มาเพื่อร้านอาหารจริง ๆ เพราะตัวระบบมี Automation พร้อมคุณสมบัติอีกมากมายที่ช่วยจัดการร้านอาหารได้อยู่หมัด แล้วหากใครกังวลว่าจะโปรโมทร้านไม่เป็น ทีมงานของเราเตรียมเทมเพลตและแพ็ค Art Work ให้แล้ว เพียงแค่ร้านใส่รูปอาหารจานเด็ดก็พร้อมโปรโทมผ่านโซเชียลแล้ว ! และที่สำคัญกว่านั้น เรามีทีม Customer Care คอยช่วยเหลือทุกวัน โดยลูกค้าสามารถติดต่อได้ตามช่วงเวลาดังนี้ :-
- จันทร์ – ศุกร์ เวลา 9.30 น. – 20.30 น.
- เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.30 น. – 18.30 น.
แล้วมาสัมผัสประสบการณ์ Automation พร้อมฟีเจอร์อีกมากมายจาก Beep Delivery ที่จะช่วยให้ร้านอาหารของคุณเติบโตและขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น !
ถ้าคุณเป็นลูกค้าสโตร์ฮับอยู่แล้ว สามารถเปิดใช้งาน Beep Delivery ได้ที่ระบบหลังบ้าน (StoreHub BackOffice) ได้เลย
แต่ถ้ายังไม่ใช่ สามารถคลิกที่ลิงค์ด้านล่างและกรอกรายละเอียดไว้ได้เลย แล้วทีมงานของเราจะติดต่อกลับไปโดยเร็วที่สุด
