Food Delivery ทางออกหนึ่งเดียวของร้านอาหารในช่วงที่ทุกคนต้องเก็บตัว เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้ร้านมีรายได้และช่วยให้ลูกค้าได้ทานอาหารร้านโปรดได้โดยไม่ต้องออกบ้านมาเสี่ยงกับเชื้อโรค เพราะตอนนี้สถานการณ์ COVID-19 ในไทย ดูเหมือนจะยังมีการแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยต้องมีมาตรการคัดกรองและควบคุมที่เข้มงวดขึ้น
และเมื่อลูกค้าและร้านอาหารโดนจำกัดการเข้าถึงหน้าร้านเช่นนี้ Food Delivery ก็เลยเป็นขวัญใจของทั้งสองฝ่ายไปโดยปริยาย ทำให้เทรนด์อาหารเดลิเวอรี่มาแรงและเป็นแนวทางการเอาตัวรอดใหม่ ๆ สำหรับเจ้าของร้านอาหารที่ก่อนหน้านี้มีเพียงหน้าร้าน
แต่ว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าของร้านอาหารเองจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ยังไงว่าอาหารเดลิเวอรี่ที่สั่งหรือว่าพนักงานส่งอาหาร จะไม่เป็นพาหะนำเชื้อ COVID-19 มาให้พวกเขา ซึ่งวันนี้เราก็มี 5 มาตรการส่งอาหาร Food Delivery ที่ร้านอาหารสามารถนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติและช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจได้ ดังนี้ :-
1. ก้าวสู่ยุค Cashless Society หรือ Contactless Payment
เลือกเข้าร่วมแอพสั่งอาหารออนไลน์ หรือเว็บไซต์เดลิเวอรี่ที่มีค่าดำเนินการที่เป็นธรรมและรองรับการจ่ายเงินดิจิตอล/ออนไลน์ เช่น การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต, บัตรเดบิต, Online Banking, Ewallet, Rabbit LINE Pay, Alipay ฯลฯ พูดง่าย ๆ ก็คือ ระงับการจ่ายเงินด้วยเงินสดไปก่อนและสนับสนุนให้ลูกค้าจ่ายค่าอาหารผ่านระบบออนไลน์แทน เพื่อส่งเสริมการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) หรือสังคมไร้เงินสด (Cashless Society)
2. มีระบบ Tracking ที่เชื่อถือได้พร้อมบริการไลฟ์แชท
เว็บไซต์เดลิเวอรี่ของคุณควรมีระบบ Tracking หรือระบบติดตามออร์เดอร์ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สถานะการจัดส่งอย่างชัดเจน และตัวระบบก็ควรมีไลฟ์แชทและฟังก์ชั่นโทร เพื่อให้ลูกค้าสอบถามเกี่ยวกับอาหารเดลิเวอรี่หรือตำแหน่งของพนักงานส่งอาหารในกรณีเกิดความผิดพลาดของระบบ อย่าง Beep Delivery เองก็มอบทางเลือกการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) มีข้อความแจ้งเตือนพร้อมลิงค์ติดตามออร์เดอร์ส่งตรงไปยังมือถือลูกค้าทันทีที่มีการสั่งเดเลเวอรี่อาหารออนไลน์ และมีเบอร์โทรแนบในลิงค์ เพื่อให้ลูกค้าโทรหาคอลเซ็นเตอร์ได้ทันทีหากมีข้อสงสัยใด ๆ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจกับบริการเดลิเวอรี่ของร้านอาหารคุณมากขึ้น
3. คุมเข้มมาตรการ Contactless Delivery ทิ้งระยะห่าง เลี่ยงการสัมผัสเมื่อส่งอาหารลูกค้า
คุณควรมีมาตรการให้พนักงานส่งอาหาร Food Delivery ทำความสะอาดมือก่อนสัมผัสกล่องอาหารและรักษาระยะห่างระหว่างลูกค้า (Social Distancing) ทุกครั้ง คือ ทิ้งระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตรในพื้นที่เปิดเพื่อเลี่ยงการสัมผัส ลดการแพร่เชื้อ และแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณใส่ใจความปลอดภัยของพวกเขาเป็นที่หนึ่ง นอกจากนี้ก็อาจจะมีช่องให้ลูกค้าทิ้งข้อความก่อนยืนยันออร์เดอร์ด้วยว่าอยากให้พนักงานส่งอาหารวางออร์เดอร์ไว้ที่จุดไหน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
4. ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยของพนักงานส่งอาหาร
วัดไข้พนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่ พร้อมกับจัดเตรียมหน้ากากอนามัย ถุงมือ และเจลล้างมือให้กับพนักงานทุกคนขณะทำงาน จะได้มั่นใจว่าพนักงานส่งอาหารของคุณแข็งแรง สุขภาพดี และไม่เสี่ยงต่อการแพร่หรือติดเชื้อ COVID-19 ขณะเดินทางส่งอาหารลูกค้าด้านนอก เพราะสิ่งนี้จะช่วยสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจ ทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ Food Delivery ของร้านคุณได้เป็นอย่างดี
5. ให้ความสำคัญกับแพ็คเกจจิ้งหรือภาชนะบรรจุอาหาร
ในยุคที่ใคร ๆ ก็หันมาส่งอาหารออนไลน์ หรือ Food Delivery แบบนี้ นอกจากร้านอาหารจะต้องใส่ใจในเรื่องของความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยต่าง ๆ แล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับแพ็คเกจจิ้งหรือภาชนะบรรจุอาหารด้วย ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิดและเหมาะกับประเภทอาหารเพื่อให้คุณภาพและรสชาติอาหารส่งตรงถึงมือลูกค้าจริง ๆ
นอกจากนี้ในส่วนของร้านอาหารก็ควรจุดล้างมือและเจลล้างมือไว้ในร้าน ควรทำความสะอาดร้านและเครื่องครัวทุกวัน วัดไข้พนักงานในร้าน หากใครไม่สบายหรือมีอาการป่วย ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการทันที เท่านี้ร้านอาหารจองคุณก็จะให้บริการ Food Delivery ได้อย่างสบายใจแล้ว ส่วนฝั่งลูกค้าเองก็อุ่นใจไร้ข้อกังวลเช่นกัน
ทั้งนี้หากคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารที่กำลังมองหาเว็บไซต์อาหารเดลิเวอรีแสนสะดวกสบาย เก็บค่าดำเนินการที่เป็นธรรม และมีมาตรการส่งอาหารที่ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงล็อคดาวน์ COVID-19 นี้ Beep Delivery คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ เพราะเราพัฒนาฟีเจอร์นี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือร้านอาหารโดยเฉพาะ และพาร์ทเนอร์ของเราอย่าง Lalamove กับ Skootar ก็มีมาตรการจัดส่งสินค้าและอาหารอย่างคุมเข้ม คุณจึงมั่นใจได้ว่าอาหารของคุณจะถูกนำส่งถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย ที่สำคัญลูกค้าของคุณก็อุ่นใจด้วยบริการจากทีมงานมืออาชีพของเรา