ล้วงลึกเคล็ดลับการเป็นแม่และเจ้าของธุรกิจ
พร้อมกันจาก 2 คุณแม่แห่งวงการร้านค้าปลีก
พบกันอีกครั้งกับบทความพิเศษสำหรับวันแม่ของเรา ซึ่งในบทความนี้เราจะพามาล้วงลึกเคล็ดลับการทำหน้าที่แม่และเจ้าของธุรกิจไปพร้อมกันของ 2 คุณแม่สุดแกร่งจากธุรกิจค้าปลีก
และคุณแม่ทั้ง 2 ท่านก็คือ
- คุณแม่พ้อยท์ เจ้าของร้าน Creatiz ร้านของเล่นสุดสร้างสรรค์ที่ได้ไอเดียมาจากความชอบและพัฒนาการของลูก
- คุณแม่เอ เจ้าของร้าน Jaokhong ร้านเสื้อผ้าสุดแซ่บที่สาว ๆ ใส่แล้วหนุ่ม ๆ ต้องมองตามกันเป็นแถว
ส่วนแม่ทั้งสองมีจะมีเคล็ดลับอะไรในการเป็นแม่และบริหารร้านได้อย่างลงตัวนั้น เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่า !
1. คุณแม่พ้อยท์ วรินทร์ ทินประภา เจ้าของร้าน Creatiz
คุณพ้อยท์ วรินทร์ ทินประภา คุณแม่ลูก 2 ดีกรีเจ้าของร้าน Creatiz ร้านขายของเล่นหลากหลายแนวเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ซึ่งลูกคนโตอายุ 9 ขวบแล้ว ส่วนคนเล็กอายุ 2 ขวบ ก่อนหน้านี้คุณพ้อยท์ทำงานเป็นพนักงานบริษัท แต่พอมีลูกคุณพ้อยท์ก็อยากจะใช้เวลากับลูกมากขึ้น เมื่อสังเกตว่าลูกชอบเล่นของเล่นอะไรก็ทำให้สนใจที่จะทำธุรกิจ และตอนนี้เปิดร้านมาเป็นเวลาปีกว่า ๆ แล้ว
สำหรับการทำหน้าที่แม่และบริหารธุรกิจพร้อม ๆ กันของคุณพ้อยท์นั้น อุปสรรคที่สำคัญที่สุดคือ “เวลา” และ “โฟกัสที่จะทำหน้าที่ทั้งสองอย่างพร้อมกันให้ดี” โดยเคล็ดลับในการแบ่งเวลาให้พอดีกับทั้งสองหน้าที่ ก็คือ
“พยายามใช้เวลาร่วมกันกับลูกและครอบครัวให้ได้มากที่สุด แล้วหาพื้นที่ในการทำโชวร์รูมหรือร้านใกล้โรงเรียนลูก จะได้ย่นเวลาในการเดินทางรับ–ส่งลูก ทำให้มีเวลาในการทำงานและอยู่กับลูกมากขึ้น”
นอกจากนี้ความสุขของลูกกับคนในครอบครัวก็มีส่วนช่วยในการทำธุรกิจของคุณพ้อยท์ด้วย เพราะการได้ใช้เวลาร่วมกันนั้นคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข และคุณพ้อยท์ก็เลือกทำธุรกิจจากความชอบของลูก ทำให้เห็นพัฒนาการลูกและมีข้อมูลเชิงลึกในการเลือกสินค้ามาขายในร้าน ถ้าจะถามถึงตัวช่วยธุรกิจนั้น คุณพ้อยท์ใช้ระบบ POS สโตร์ฮับตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน โดยเลือกจากฟังก์ชันที่ใส่ข้อมูลต่าง ๆ ได้ในระบบเดียวและดูยอดขายได้แบบเรียลไทม์แม้จะไม่อยู่ร้าน ถือว่าช่วยบริหารจัดการร้านได้เยอะ
ส่วนเคล็ดลับในการเป็นแม่ที่ดีและบริหารร้านให้ประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กันนั้น คุณพ้อยท์บอกว่า
“ไม่ว่าจะหน้าที่แม่หรือบริหารธุรกิจ ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ อยากจะแนะนำให้ดูที่จุดมุ่งหมายมากกว่า ดูว่าเราตั้งเป้าหมายว่าจะดูแลลูกแบบไหนที่เราคิดว่าแฮปปี้ กับธุรกิจเรามองว่าอยากจะเติบโตแบบไหน สิ่งนี้จะช่วยให้เราทำทั้งสองอย่างได้ดี เมื่อต้องทำทั้งสองอย่างพร้อมกันก็ต้องตั้งเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินจริง ทำให้สำเร็จไปทีละสเต็ปแล้วค่อยปรับใหม่ จะได้ไม่กดดันตัวเองและทำให้ทุกคนแฮปปี้ได้”
และตอนนี้คุณพ้อยท์ก็กำลังวางแผนเพิ่มประเภทสินค้าในร้านเพื่อเพิ่มทางเลือกที่มากขึ้นให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ส่วนในการขยายสาขานั้น คุณพ้อยท์ยังคงเน้นช่องทางออนไลน์และการออกร้านป๊อปอัพตามงานต่าง ๆ
2. คุณแม่เอ นวรัตน์ สินสัมพันธ์ฤทธิ์ เจ้าของร้าน Jaokhong
คุณเอ นวรัตน์ สินสัมพันธ์ฤทธิ์ คุณแม่สุดแซ่บเจ้าของร้าน Jaokhong ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงที่ให้สาว ๆ สนุกกับการแต่งตัวได้แบบไม่มีเบื่อ โดยตัวร้านตั้งอยู่ที่แพลตตินั่ม คุณเอเริ่มทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2540 และขายในจตุจักร โดยออกแบบเองทั้งหมด
ตอนนี้คุณเอมีลูกทั้งหมด 3 คนด้วยกัน อายุ 26, 25 และ 18 ตามลำดับ แต่อุปสรรคในการทำหน้าที่แม่ขณะที่บริหารธุรกิจไปพร้อมกันในตอนปี 40 ก็คือ “เวลา” เพราะจะไม่มีเวลาให้ลูกได้เต็มที่ แต่คุณเอก็ให้เวลาลูกในช่วงจันทร์–ศุกร์อย่างเต็มที่ ส่วนเสาร์–อาทิตย์ก็มาขายเสื้อผ้าที่จตุจักร ให้ลูก ๆ อยู่กับคุณพ่อ ปัจจุบันความสุขของลูกกับคนในครอบครัวถือเป็นแรงผลักดันให้กับคุณเอได้เป็นอย่างดี แล้วตอนนี้ลูกก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ส่วนในการทำธุรกิจนั้น สโตร์ฮับก็เข้ามาช่วยได้เยอะมาก เหมือนสร้างมาเพื่อเจ้าของธุรกิจอย่างคุณเอโดยเฉพาะ เพราะคุณเอไม่มีเวลาหรือบางทีต้องไปที่โรงงานผลิตในประเทศจีน และเสาร์–อาทิตย์ก็ต้องอยู่กับลูก คุณเอบอกว่า
“ระบบ POS สโตร์ฮับช่วยในเรื่องของการเช็คสต๊อก ดูยอดขาย และทำทุกอย่างได้ในมือถือ สโตร์ฮับจึงตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ ชอบมาก ๆ และอยากแนะนำมาก ๆ ”
โดยเคล็ดลับในการเป็นแม่ที่ดีและบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จไปพร้อม ๆ กันนั้น คุณเอบอกว่า
“ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและการแบ่งเวลา ต้องแบ่งเวลาทุกอย่างให้ลงตัว แล้วยังมีแรงผลักดันจากลูก ๆ ให้มีกำลังใจในการทำร้านและมีความสุขกับการทำงาน ยิ่งมีตัวช่วยดี ๆ อย่างสโตร์ฮับยิ่งชอบ”
ส่วนสำหรับแผนขยายสาขานั้น ตอนนี้คุณเอก็กำลังจะเปิดอีกร้านหนึ่งและคิดว่าจะใช้ระบบของสโตร์ฮับเข้ามาช่วยอีกเหมือนกัน เพราะแค่มีพนักงานกับระบบก็เหมือนมีตัวคุณเออยู่ที่ร้านด้วย
สรุป
จะเห็นได้ว่าการทำหน้าที่แม่และบริหารจัดการธุรกิจไปพร้อม ๆ กันของคุณแม่ทั้ง 2 คนนั้นไม่ได้ยากเลย แต่ก็มีอุปสรรคหลักคือ “เวลา” เช่นกัน โดยคุณแม่พ้อยท์กับคุณแม่เอนั้นต้องแบ่งเวลาให้พอดีกับทั้งสองฝ่าย
อีกอย่างคือ คุณแม่ทั้งสองมีตัวช่วยในการบริหารร้านอย่างระบบ POS สโตร์ฮับที่มีฟีเจอร์และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ธุรกิจค้าปลีกได้อย่างครบครัน เลยทำให้แบ่งเวลาและเข้าใกล้เป้าหมายธุรกิจได้ง่ายขึ้น
แล้วคุณแม่อย่างคุณละ สามารถทำหน้าที่ทั้งสองได้อย่างลงตัวแค่ไหน ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก หรือว่ามีปัญหาอะไรในการบริหารร้านหรือเปล่า ?
ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ลองนำเคล็ดลับจากคุณแม่พ้อยท์และคุณแม่เอไปใช้ แล้วก็หาตัวช่วยดี ๆ อย่างระบบ POS สโตร์ฮับมาช่วยจัดการหน้าร้านดู รับรองว่าชีวิตจะง่ายขึ้นและทำทั้งสองหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน !