15 เคล็ดลับป้องกันการขโมยของที่ทำตามง่าย
และไม่เปลืองงบสำหรับร้านขายเสื้อผ้า
ร้านขายเสื้อผ้าของคุณกำลังเจอปัญหาการขโมยของในร้านหรือเปล่า ? ถ้าใช่ คุณมีวิธีจัดการและรับมือกับปัญหานี้ยังไง ?
เพราะถ้าคุณเพิกเฉยและยังไม่หาวิธีมาป้องกันหรือจัดการกับปัญหานี้ สักวันร้านของคุณจะต้องขาดทุนและอาจจะต้องปิดตัวลงในที่สุด
แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะในบทความนี้เรามี 15 เคล็ดลับป้องกันการขโมยของที่ทำตามได้ง่าย ๆ และไม่สิ้นเปลืองงบมาฝาก ให้เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าอย่างคุณทำตามได้เลยทันที เพราะยังไงกันไว้ก็ดีกว่าแก้อยู่แล้ว จริงไหม ?
1. รู้ว่าชั่วโมงหรือวันไหนขายดี
รู้ไหมว่ามีการขโมยของเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดและตอนที่ร้านกำลังยุ่ง ? ถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็คือ Peak Hour นั่นแหละ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า Peak Hour ของร้านคุณคือช่วงเวลาไหน ถ้าคุณอยากเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน ก็ต้องมีตัวช่วยในการขายอย่างระบบ POS สโตร์ฮับเพราะโปรแกรมขายหน้าร้านตัวนี้มีฟีเจอร์ที่บันทึกข้อมูลของร้านได้อย่างครบครัน ตั้งแต่การจัดการสต๊อก, ดูว่าสินค้าไหนขายดี, ช่วงไหนลูกค้าเข้าร้านมากที่สุด และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย
2. จัดวางสินค้าอย่างเหมาะสม
วางเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับราคาแพงที่ขโมยได้ง่ายไว้ใกล้หรือถัดจากจุดชำระเงิน จะได้สังเกตง่าย ๆ และป้องกันการขโมยของในร้านไม่ให้เกิดขึ้นได้ทันการณ์ เพราะจากตามเว็บไซต์ tonydonofrio.com แล้วนั้นพบว่า 44% ของคนที่ขโมยของในร้านบอกว่าพวกเขาจะหยุดพฤติกรรมนี้ถ้าพนักงานในร้านเห็นพวกเขา ดังนั้นวางสินค้าแพง ๆ ไว้ใกล้จุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายจะดีกว่า
3. ใช้ระบบขายหน้าร้าน POS อย่างสโตร์ฮับ
คุณจะต้องตกใจเมื่อรู้ว่าจำนวนสินค้าหดหายในวงการร้านค้าปลีกของอเมริกานั้นมีมูลค่าสูงถึง 46.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ !
แต่คุณสามารถป้องกันความเสียหายนี้ให้กับร้านขายเสื้อผ้าของคุณได้ด้วยระบบ POS สโตร์ฮับ เพราะระบบนี้สามารถติดตามสต๊อกและยอดขายเพื่อลดจำนวนสินค้าหดหายกับการขโมยของภายในร้านเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วเจ้าของร้านอย่างคุณก็สามารถแบ่งระดับการเข้าถึงระบบขายได้ ให้พนักงานใช้งานได้ตามตำแหน่งหรือหน้าที่ เท่านี้ก็ป้องกันการโกงของพนักงานไปได้เปราะหนึ่งแล้ว และถ้าเกิดว่ามีสิ่งไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในร้าน คุณก็จะระบุคนผิดได้ง่าย ๆ
ภาพจาก Unsplash
4. สอดส่องดูแลห้องลองชุด
ห้องลองชุดนั้นเปรียบเสมือนห้องส่วนตัวที่เพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้า เพื่อให้พวกเขาได้มีพื้นที่ลองชุดและหาเสื้อผ้าไซซ์ที่พอดีที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อจากร้านของคุณ แต่ในทางตรงกันข้าม ห้องลองชุดก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เสี่ยงต่อการขโมยของ เนื่องจากพนักงานร้านไม่สามารถติดตามเข้าไปในห้องลองได้ ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าร้านของคุณมีมาตรฐานป้องกันที่ครอบคลุม
โดยวิธีสุดเบสิกที่ได้รับความนิยมและป้องกันปัญหานี้อย่างได้ผลก็คือป้ายติดตามจำนวนเสื้อผ้า แนะนำให้มีพนักงานคอยดูแลในบริเวณนั้นและใช้ป้ายบอกจำนวนชุดที่ลูกค้าเอาเข้าไปลอง จะได้ติดตามจำนวนเสื้อผ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
5. ใช้ชั้นวางสินค้าที่ไม่สูงเกินไป
หลายร้านนิยมใช้ชั้นวางสินค้าสูง ๆ แต่นั่นก็ทำให้คุณควบคุมและสอดส่องดูแลร้านได้ยากเช่นกัน เพราะฉะนั้นลองใช้ชั้นวางสินค้าที่ไม่สูงมากจนเกินไป เพื่อให้คุณได้เห็นความเคลื่อนไหวและพฤติกรรมการช้อปของลูกค้า จะได้สังเกตแนวโน้มของการขโมยของด้วยและแน่นอนว่าเมื่อร้านของคุณมีชั้นวางสินค้าที่ไม่สูงมาก ก็จะไม่มีพื้นที่ซ่อนแอบและช่วยให้คุณเฝ้าระวังลูกค้าได้ง่ายขึ้น
6. จัดตารางพนักงานให้เหมาะสม
จากการศึกษาของเว็บไซต์ Crimedoctor พบว่าการขโมยของในร้านค้าปลีกของอเมริกานั้นมีมูลค่าสูงถึง 33.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี !
แล้วเมื่อมีพนักงานไม่มากพอในช่วงที่ร้านยุ่งก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการโดนขโมยของมากยิ่งขึ้น ไปอีก !
แล้วรู้ไหมว่าต้องทำยังไงถึงจะจัดกะพนักงานได้อย่างเหมาะสม ? ก็ลองใช้ระบบ POS อย่างสโตร์ฮับสิ เท่านี้คุณก็รู้แล้วว่าเวลาไหนเป็น Peak hour ของร้าน เพราะระบบขายหน้าร้านของเรามีระบบหลังบ้านในตัว ช่วยให้รู้ข้อมูลของร้านได้อย่างอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องไปนั่งสังเกตการณ์เลย
ภาพจาก Unsplash
7. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบของร้าน
ร้านเสื้อผ้าที่รกรุงรังจะเปิดโอกาสให้คนฉกฉวยของจากร้านคุณได้ง่ายขึ้น และทำให้คุณดูแลร้านได้ยากขึ้น แถมยังไม่รู้อีกว่าสินค้าไหนหายไป และแน่นอนว่าร้านขายเสื้อผ้าของคุณจึงต้องสะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ
ลองจัดวางสินค้าในรูปแบบที่คุณเช็คได้ง่าย เมื่อมีสินค้าหายไปจะได้สังเกตได้ทันที ถ้าจะให้ดีต้องจัดวางสินค้าให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา
8. สังเกตแนวโน้มการขโมยของ
ปกติแล้วขโมยมักจะทำงานกันเป็นแก๊งค์ ดังนั้นให้ระวังกลุ่มลูกค้าใหญ่ ๆ ไว้ให้ดี เพราะลูกค้ากลุ่มน่าสงสัยนี้มักจะใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อก่อกวนและทำให้พนักงานวอกแวก พนักงานจะได้สังเกตไม่ทัน ดังนั้นให้ดูว่าสินค้าไหนโดนขโมยบ่อย ๆ และลองสังเกตพฤติกรรมของขโมยจะได้รู้ว่าลูกค้าประเภทไหนมีพฤติกรรมเสี่ยง
9. จัดเคาน์เตอร์จ่ายเงินไว้ใกล้ทางออกร้าน
พนักงานของร้านจะได้ทักทายและขอบคุณลูกค้าทุกคนที่เข้า-ออกร้านเพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าคุณรับรู้และใส่ใจการมาเยือนของพวกเขา แล้วอีกอย่างลูกค้ากลุ่มเสี่ยงก็จะได้รู้ตัวว่าทางร้านกำลังจับตามองอยู่ แล้ววิธีนี้ก็จะช่วยสกัดกั้นขโมยได้เป็นอย่างดี
ลองนึกดูสิว่าถ้ามีพวกย่องเบาเข้าร้านขายเสื้อผ้าของคุณ แล้วเจอแคชเชียร์ตรงทางออก หรือมีพนักงานกล่าวขอบคุณตรงนั้น ก็ต้องมีสะดุ้งกันบ้างละ !
ภาพจาก Pixabay
10. ติดตั้งกระจกในร้าน
วิธีป้องกันขโมยของในร้านขายเสื้อผ้าที่ถูกที่สุดอีกหนึ่งวิธีการติดตั้งกระจกภายในร้าน โดยคุณสามารถติดตั้งกระจกเพื่อกำจัดจุดบอดและเพิ่มมุมมองที่กว้างขึ้น เพราะกระจกจะช่วยสะท้อนมุมต่าง ๆ ภายในร้านให้คุณสอดส่องลูกค้าในร้านได้ดีกว่าเดิม รับรองว่าไม่ว่าลูกค้าจะอยู่มุมไหนของร้านก็ดูแลได้ทั่วถึง !
แล้วอีกอย่าง หากพนักงานเจอว่าลูกค้าคนไหนมีพฤติกรรมแปลก ๆ ก็จะยับยั้งได้ทัน คราวนี้ไม่มีขโมยคนไหนแอบหิ้วเสื้อผ้าจากร้านคุณหรือคลาดสายตาพนักงานในร้านไปได้แน่นอน !
11. มีป้ายเตือน
อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ร้านขายเสื้อผ้าของคุณขาดไม่ได้เลยก็คือ ป้ายเตือนต่าง ๆ เพราะนี่คือเครื่องมือสำคัญที่จะหยุดการขโมยของในร้านได้ แนะนำให้มีป้ายแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับ
การรักษาความปลอดภัยของร้าน ค่าปรับในการขโมยของ และการทำผิดกฎหมายฐานลักทรัพย์ต่าง ๆ ให้ชัดเจน
ให้มีป้ายเตือนเหล่านี้ตรงทางเข้า–ออกร้านและห้องลองเสื้อผ้า ที่สำคัญอย่าลืมติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้านด้วย เท่านี้ขโมยก็ขยาดและช่วยลดความเสี่ยงของในร้านหายได้แล้ว !
12. ติดตั้งเซ็นเซอร์ประตู
นอกจากมีป้ายติดตามจำนวนเสื้อผ้าในห้องลองและมีแท็กอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ร้านของคุณควรติดตั้งเซ็นเซอร์ตรงประตูเพื่อเตือนให้พนักงานรู้ทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้า–ออกร้าน และวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับร้านขายเสื้อผ้าขนาดเล็ก
จะสังเกตได้ว่าร้านขายเสื้อผ้าและร้านค้าปลีกหลายร้านเริ่มหันมาใช้เซ็นเซอร์ประตูเพื่อป้องกันการขโมยของในร้านกันมากขึ้น เนื่องจากตัวเซ็นเซอร์จะมีเสียงเตือนทุกครั้ง ช่วยให้พนักงานสังเกตลูกค้าได้แทบทุกคนเลยละ
ภาพจาก Picjumbo
13. ระวังคนที่เดินอ้อยอิ่งไปมา
บางครั้งร้านเสื้อผ้าของคุณอาจจะมีลูกค้าที่มีท่าทางแปลก ๆ เข้ามาในร้าน ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มที่เดินในร้านหรือนอกร้านเป็นเวลานาน ๆ แล้วละก็ ยิ่งต้องจับตามอง ลองเข้าไปถามลูกค้ากลุ่มนั้นดูว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม และถ้ายังเดินไป–มาแต่ไม่มีท่าทีว่าจะซื้อนั้นให้เตรียมตัวไว้ได้เลย !
14. จัดการการคืนเงินและคืนสินค้าให้ดี
การขโมยของในร้านไม่ใช่วิธีเดียวที่จะทำให้ร้านของคุณทุนหายกำไรหด แต่การนโยบายการคืนสินค้าและคืนเงินก็ทำให้ร้านของคุณได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากร้านของคุณมีนโยบายนี้ ก็ควรมีกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดจะได้ไม่โดนหลอกคืนสินค้าได้ง่าย ๆ
และเพื่อลดปัญหานี้ คุณควรให้พนักงานตรวจสอบสินค้าและคำร้องขอของลูกค้าอย่างถี่ถ้วนก่อนคืนเงินหรือรับคืนสินค้าทุกครั้ง
15. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงานในร้านและลูกค้า
เจ้าของร้านอย่างคุณจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงานในร้านและลูกค้า
เพราะลูกค้าคือส่วนสำคัญในธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าของคุณ คุณจึงต้องรู้จักและเข้าใจความต้องการของลูกค้า ยิ่งคุณรู้จักพวกเขาดีเท่าไหร่ พวกเขาก็มีแนวโน้มในการขโมยของในร้านน้อยลงเท่านั้น แล้วหากคุณรู้จักชื่อของลูกค้า กลุ่มที่เป็นขโมยก็จะรู้ว่าคุณตามทันได้ง่าย และลูกค้ากลุ่มที่คุณรู้จักก็จะช่วยแจ้งเบาะแสได้เป็นอย่างดีเมื่อสินค้าหาย
ในส่วนของพนักงานนั้น คุณต้องแสดงให้พวกเขารับรู้ว่า เจ้าของร้านอย่างคุณรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในการทำหน้าที่ของพวกเขา เพราะที่จริงแล้วปัญหาที่ใหญ่กว่าการขโมยของในร้านก็คือลูกน้องจอมโกง แล้วก็มี 75% ของพนักงานยอมรับว่าพวกเขาเคยขโมยของในร้าน
เคล็ดลับการป้องกันขโมยของในร้านขายเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นวิธีที่ทำตามได้ง่ายและไม่สิ้นเปลืองงบร้านของคุณแต่อย่างใด ซึ่งถ้าไม่อยากขาดทุนและกำไรหดหายก็ต้องนำไปใช้ก่อนจะสายเกินแก้
แล้วร้านของคุณละมีมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือป้องกันของหายยังไง ? อย่าลืมแชร์เคล็ดลับเหล่านั้นกับเราจะได้เป็นประโยชน์กับเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าและร้านค้าปลีกเจ้าอื่น ๆ ด้วย