ต้องยอมรับว่า COVID-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยเราเป็นอย่างมาก แล้วก็เป็นผลกระทบในรูปแบบโดมิโน่เสียด้วย เพราะนอกจากธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจนำเข้า–ส่งออกที่ซบเซาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารก็เจ็บตัวไม่แพ้กัน
ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ลูกค้าเดินห้างน้อยลง ผู้คนบนท้องถนนบางตา และบางบริษัทก็ให้พนักงานทำงานที่บ้าน (work from home) เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าของธุรกิจค้าปลีกและร้านอาหารต่างก็ต้องมองหาวิถีทางปรับตัวกันยกใหญ่ หลายคนเลือกที่จะหยุดให้บริการ หลายคนเลือกที่ปลดพนักงานเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนร้านมากที่สุด และหลายคนก็เกือบจะถอดใจปิดร้านแบบถาวรไปเลยก็มี
แต่ ! ! ! คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนั้น เพราะคุณสามารถรับมือกับวิกฤต COVID-19 นี้ได้ง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีเพิ่มยอดขายในช่วงนี้ได้ ซึ่งก็คือ . . .
1. ขายออนไลน์
ภาพจาก Freepik
สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจขายของชำ ของใช้จำเป็น หรือสินค้าอุปโภคบริโภค ผลกระทบน่าจะไม่รุนแรงเท่าร้านค้าปลีกอย่างร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น แต่ถ้าหันมาขายออนไลน์ ยอดขายร้านก็จะมีแต่พุ่งกับพุ่ง เพราะในช่วงวิกฤตโควิด-19 อย่างนี้ ใคร ๆ ก็กลัวที่จะออกบ้าน อีกอย่างยังมีการรายงานอีกว่าเชื้อ COVID-19 สามารถอยู่บนธนบัตรได้หลายวัน
ดังนั้นการหันมาขายออนไลน์ที่รองรับการจ่ายเงินดิจิตอล อี เพย์เมนต์ และการโอนเงินออนไลน์ต่าง ๆ นี่เอง ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนร้านของคุณ และยิ่งจำนวนเคสผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสยังคงเพิ่มขึ้นเช่นนี้ ยอดขายออนไลน์ก็ยิ่งมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดแน่นอน
และที่สะดวกสบายยิ่งว่าคือ เมื่อเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ลูกค้าของคุณก็สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของร้านได้ตลอดเวลา ! แถมคุณยังไม่ต้องนั่งรอลูกค้าเข้าร้านและเสี่ยงกับเชื้อโคโรน่าไวรัสอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นทำไมไม่ลองเปิดร้านค้าออนไลน์กันดูล่ะ ?
เมื่อมีร้านค้าออนไลน์เป็นของคุณเองแล้ว คุณจะวางใจได้ในเรื่องของการพยุงยอดขายร้าน เผลอ ๆ อาจมีรายได้มากกว่าเมื่อก่อนก็ได้
หรือถ้าใครกำลังเล็งขายตามมาร์เก็ตเพลส (Market Place) อย่าง Lazada, Shopee หรือ Facebook ก็ต้องดูค่าธรรมเนียมหน่อยว่าได้คุ้มเสียหรือเปล่า และแต่ละที่จัดลำดับร้าน หรือเลือกแสดงสินค้ายังไง เพราะตามหลักการแล้ว อย่าง Lazada กับ Shopee ก็จะโชว์สินค้าร้านดัง ๆ และน่าเชื่อถือเท่านั้น ส่วนโอกาสที่สินค้าของร้านเล็ก ๆ จะแสดงบนหน้าแรก ๆ ก็อาจจะยากหน่อย ยังไงมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองที่คุณสามารถออกแบบและควบคุมทุกอย่างเองได้ก็ดีกว่าแน่นอน
2. ฟู้ด เดลิเวอรี (Food Delivery)
ภาพจาก Pixabay
Social Distancing หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้บริการฟู้ด เดลิเวอรี (food delivery) กลายเป็นขวัญใจของเจ้าของร้านอาหารและลูกค้าในช่วงวิกฤต COVID-19
เพราะแม้หลายร้านจะกันมาสรรสร้างเมนูอาหารจานเดี่ยวเพื่อช่วยลดการสัมผัส เปิดโอกาสให้ลูกค้าซื้อกลับบ้าน (take away) หรือลดราคาอาหารเพื่อเรียกลูกค้า แต่ก็ดูเหมือนว่าวิธีนี้ยังไม่สามารถเรียกยอดขายได้อย่างเต็มที่ นั่นก็เพราะลูกค้าหลายคนไม่มั่นใจและยังกลัวที่จะออกมาเผชิญเชื้อโคโรน่าไวรัสนอกบ้านอยู่ดี ยิ่งช่วงนี้หามาส์กและเจลล้างมือยากแล้ว ลูกค้ายิ่งไม่อยากออกไปไหน
อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทและทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น เพราะปัจจุบันมีแอพสั่งอาหาร food delivery มากมายที่ร้านอาหารสามารถฝากขาย และให้ลูกค้าสั่งอาหารออนไลน์มาทานได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น LINE MAN, GrabFood, Foodpanda และ Get Food เป็นต้น ซึ่งแต่จะแอพจะมีอัตราค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไป หากใครคิดจะใช้บริการก็ต้องศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบข้อดี–ข้อเสียให้ดี ๆ
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ร้านอาหารของคุณไม่เงียบหายไปจากสายตาลูกค้าประจำ ซึ่งก็คือ มีบริการส่งอาหารเป็นของคุณเอง ลองใช้เครื่องคิดเงินหรือระบบ POS อย่างสโตร์ฮับที่มีฟีเจอร์ CRM ช่วยเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อบอกต่อข่าวสารดี ๆ และแจ้งลูกค้าเรื่องบริการส่งอาหารของร้าน ซึ่งระหว่างนี้ก็อาจจะส่งกันเองไปก่อน เมื่อลูกค้าเยอะขึ้นก็ค่อยมองหาช่องทางขยับขยายต่อไป เท่านี้ก็จะเพิ่มยอดขายร้านอาหารได้แล้ว
ล่าสุด สโตร์ฮับได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Beep Delivery เพื่อออกมาช่วยเหลือร้านอาหาร ให้ร้านมีเดลิเวอรี่เป็นของตัวเอง ทั้งยังมีพาร์ทเนอร์ขนส่งแถวหน้าของไทยคอยส่งตรงความอร่อยไปยังลูกค้า เพราะเราต้องการ #Saveร้านอาหาร อย่างแท้จริง คุณจึงเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหารของคุณได้ง่ายแม้จะมีวิกฤต COVID-19 (เผลอ ๆ อาจจะขายดีกว่าแต่ก่อนที่จะมีไวรัสโคโรน่าเข้ามาอีกด้วยนะ !)
3. ประหยัดต้นทุนให้ได้มากที่สุด
ภาพจาก Freepik
คำนวณต้นทุนสินค้าให้แม่นยำเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในร้านให้ได้มากยิ่งสุด ซึ่งแน่นอนว่าระบบ POS หรือระบบจัดการร้านคือตัวช่วยที่ดีที่สุดในข้อนี้ เพราะระบบหลังบ้านจะบอกข้อมูลและคำนวณรายรับ–รายจ่ายของร้านได้อย่างละเอียด สามารถบอกได้ว่าวันนี้สินค้าขายไปกี่ชิ้น ต้องเติมสินค้าไหนบ้าง ยิ่งเป็นสินค้าขายดียิ่งต้องมีข้อมูลที่แม่นยำเพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสในการขาย
หรืออย่างร้านอาหารที่ต้องใช้ส่วนประกอบหรือวัตถุดิบ ฟีเจอร์ติดตามสต๊อกแบบแยกส่วนจะช่วยให้คุณคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คุณไม่เสียเงินไปกับวัตถุดิบหรือสั่งสินค้ามาเยอะเกินไป ช่วยป้องกันสินค้าเน่าเสีย ทั้งยังช่วยให้คุณนำเงินในส่วนนี้ไปวางแผนโปรโมทร้านพร้อมกับดูแลร้านในส่วนอื่น ๆ ต่อไปได้
4. จัดโปรโมชั่นกระตุ้นลูกค้า
ภาพจาก Pixabay
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังต่างก็ปรับตัวสู้กับ COVID-19 เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายจากลูกค้า โดยมีแคมเปญโปรโมชั่นสำหรับขาช้อปออนไลน์โดยเฉพาะ อย่างเซ็นทรัลก็จัดโปรโมชั่นสู้โควิด-19 Central Hot Price Hot Deal เพื่อพัฒนาค้าปลีกสู่ออมนิชานแนล (Omnichannel) รวมออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันเพื่อหวังฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปให้ได้ โดยโปรโมชั่นก็จะมีทั้งซื้อ 1 แถม 1 ลดราคาพิเศษ หรือแลกรับส่วนลดเพิ่มเติม 12.5% เมื่อใช้พ้อยท์บัตร The 1 Card
หรืออย่าง เดอะ มอลล์ ก็มีแคมเปญช้อป ช่วย ไทย ไทยสู้สู้! เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าออกมาใช้จ่าย ทั้งยังมีมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุดสำหรับลูกค้า ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้ากมายที่ทาง เดอะ มอลล์ มุ่งเน้นก็จะเป็นลูกค้าสมาชิกที่มี M Card และสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าออกมาช้อปกันมากเป็นพิเศษในช่วงเสาร์–อาทิตย์
เห็นไหมล่ะว่า นอกจากการขายของออนไลน์และวิธีอื่น ๆ แล้ว เจ้าของร้านค้าปลีกหรือแม้กระทั่งร้านอาหารเองก็ต้องไม่มองข้ามเรื่องการจัดโปรโมชั่นด้วย อย่าลืมมีโปรโมชั่นซื้อยกแพ็คราคาถูกกว่า หรือเซ็ตสินค้าราคาถูก ซึ่งในฝั่งของร้านอาหารเองก็อาจจะจัดโปรโมชั่นลดราคาเมื่อลูกค้าจับคู่ออาหารกับเครื่องดื่ม หรือแถมฟรีเครื่องดื่มสำหรับอาหารบางเมนู หรือมีอาหารเซ็ตสำหรับครอบครัว ก็ได้ เท่านี้โอกาสเพิ่มยอดขายช่วง COVID-19
5. เปลี่ยนพนักงานให้เป็น Influencer
ภาพจาก Freepik
แทนที่จะปลดพนักงานออก คุณควรแสดงแผนธุรกิจรับมือโควิด-19 ของร้าน แล้วลองทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาก็เป็นหนึ่งในเจ้าของร้านก่อน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาคือส่วนสำคัญที่จะชี้ชะตาร้าน หากทุกคนไม่ช่วยกัน ร้านค้าปลีกและร้านอาหารของคุณก็จะไปต่อยาก ดังนั้นลองขอความร่วมมือจากพนักงานทุกคนให้ช่วยโปรโมทร้านตามโซเชียลมีเดียส่วนตัวของพวกเขาเพื่อให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักและน่าจดจำสำหรับลูกค้าออนไลน์มากที่สุด แล้วคุณก็จะขยาย brand awareness ไปในวงกว้างขึ้น
แนะนำว่ารูปต้องสวยคมชัด แล้วเนื้อหาวิดีโอของคุณก็ต้องมีเรื่องราวที่น่าสนใจด้วย อย่าลืมว่านี่คือการสร้างแบรนดิ้ง (branding) ซึ่งจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความสร้างสรรค์ที่คุณมี ดังนั้นควรให้ความรู้พนักงานในเรื่องของการโปรโมทร้านด้วย
จำไว้ว่ายิ่งคนเห็นร้านของคุณมากเท่าไหร่ และเรื่องราวของร้านคุณน่าสนใจมากเท่าไหน โอกาสที่คุณจะสร้างยอดขายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
สรุป
หากอยากพยุงร้านและเพิ่มยอดขายร้านค้าปลีกหรือร้านอาหารของคุณในช่วงวิกฤต COVID-19 นี้ คุณต้องตามให้ทันเทรนด์ขายของออนไลน์ เกาะกระแส food delivery แล้วก็สร้างโปรโมชั่นกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของด้วย ที่สำคัญคุณต้องมีข้อมูลที่แม่นยำเพื่อลดค่าใช้จ่ายและนำส่วนที่เหลือไปวางแผนร้าน หรือเก็บเป็นเงินหมุนเวียนร้านต่อไปได้ นอกจากนี้ก่อนจะปลดพนักงาน คุณควรลองเปลี่ยนพนักงานให้เป็น Influencer ช่วยโปรโมทสินค้าและบริการของร้านอย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจเพื่อให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เท่านี้คุณก็จะมีโอกาสสร้างยอดขายและใกล้ชิดกับลูกค้าของคุณมากขึ้นแล้ว เรียกว่าแม้จะมี COVID-19 ก็ไม่ทำให้ร้านของคุณสะดุดแน่นอน !