ถอนพิษ Coronavirus (COVID-19) ด้วย 7 ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการ

ปี 2020 ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเจ้าของธุรกิจมาก ๆ ยิ่งมีการระบาดของไวรัสโคโรน่า (Coronavirus) หรือโควิด-19 (COVID-19) แบบนี้ ผู้ประกอบการยิ่งต้องตื่นตัวและหาทางออกให้เร็วที่สุด

เพราะการระบาดครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระทบการใช้ชีวิตของเราเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเศรษฐกิจในบ้านเราก็หนีไม่รอดและโดนพิษโควิด-19 ไปตามกัน ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs รายน้อย-ใหญ่ต้องวางแผนธุรกิจเพื่อรับมือและพยุงร้านให้ผ่านพื้นวิกฤตินี้ไปได้

แล้วผู้ประกอบการจะต้องทำยังไงในช่วงที่ธุรกิจอยู่ในช่วงขาลงเช่นนี้?

วันนี้เรามีข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบการที่มีหน้าร้านมาแนะนำ เพื่อฝ่าวิกฤติไวรัสโคโรน่า (COVID-19) นี้ไปให้ได้

1. เตรียมแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP: Business Continuity) เพื่อให้พร้อมรับมือกับไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ในปี 2020

“การวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP: Business Continuity Plan) คืออะไร?”

แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ Business Continuity Plan คือ แผนที่ร่างกระบวนการ ขั้นตอน และระบบต่าง ๆ เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้คุณวางแผนธุรกิจล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้คุณรับมือและป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเข้ามาได้เป็นอย่างดี อีกอย่างการวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจยังช่วยให้พนักงานในร้านมั่นใจว่าถ้าเกิดปัญหาขึ้น เจ้าของธุรกิจเช่นคุณจะรับมือและแก้ปัญหาได้ทันทีก่อนที่ร้านจะเข้าสู่วิกฤติจริง ๆ และการวางแผนล่วงหน้าเช่นนี้ก็จะช่วยประหยัดเงิน เวลา และช่วยให้คุณวางใจได้ว่าสินค้าที่มีจะไม่สูญเปล่าแน่นอน นั่นก็เพราะว่าคุณมีทางออกไว้สำหรับทุกปัญหาแล้ว ! 

ดังนั้นอย่างสถานการณ์ที่ COVID-19 ระบาดแบบนี้ แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการเช่นคุณจัดการทุกปัญหาได้ง่ายขึ้น เพราะ . . .

• ช่วยลดความกังวลและปกป้องพนักงาน
• ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อภายในร้าน
• ช่วยให้ร้านมีมาตรการรับมือที่ดีขึ้นในกรณีที่พนักงานในร้านและตัวคุณเองต้องกักตัวหรือได้รับเชื้อ
• มั่นใจยิ่งขึ้นแม้ในสถานการณ์คับขันเพราะร้านเตรียมแผนสำรองไว้สำหรับลูกค้า ซัพพลายเออร์ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ แล้ว เพราะฉะนั้นแม้จะมีโควิด-19 ร้านของคุณก็ดำเนินการไปได้แน่นอน

ทั้งนี้แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจเกี่ยวกับ COVID-19 ควรจะมี 3 ด้านด้วยกัน ดังนี้ :-

1. การบริหารจัดการพนักงาน ลูกค้า และซัพพลายเออร์
2. การดำเนินการทางธุรกิจและการประสานงาน
3. การสื่อสารภายในองค์กรร้านค้าของคุณเองและการสื่อสารกับบุคคลภายนอก

การบริหารจัดการพนักงาน ลูกค้า และซัพพลายเออร์

• วางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจว่าในฐานะผู้นำหรือเจ้าของร้านเองแล้ว คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง
• ตรวจสอบนโยบายของร้านอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า โดยเฉพาะเรื่องลาป่วยและการท่องเที่ยวของพนักงาน
• ประกาศแนวปฏิบัติสำหรับพนักงานร้านที่ท่องเที่ยวไปยังประเทศเสี่ยงอย่างจีน, เกาหลี,  อิตาลี, อิหร่าน และประเทศแถบตะวันออกกลางเมื่อ 14 วันที่ผ่านมาGet health and travel declarations 
• ดูเรื่องประกันสุขภาพให้พนักงานอีกครั้งเพื่อให้ครอบคลุมเรื่องโควิด-19 ด้วย

การดำเนินการทางธุรกิจและการประสานงาน

• อบรมพนักงานและให้ความรู้เรื่องไวรัสโคโรน่า เพื่อเตรียมความพร้อมพนักงานให้เตรียมสารฆ่าเชื้อต่าง ๆ ทั้งเจลล้างมือ, hand sanistiser และหน้ากากอนามัย
• จัดหาอุปกรณ์เพื่อเตรียมพร้อมแผนการตรวจคัดกรองและตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น เครื่องวัดไข้ดิจิตอลแบบยิงหน้าผาก
• ควบคุมไวรัสโคโรน่า เพื่อป้องกันการแพร่กระจายและติดตามชี้แนะของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
• วางแผนทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในร้านในกรณี่ที่มีคนติดเชื้อโควิดภายในร้าน

การสื่อสารภายในองค์กรร้านค้าของคุณเองและการสื่อสารกับบุคคลภายนอก

• เตรียมพร้อมแผนการแจ้งข้อมูลข่าวสารในกรณีที่มีคนในร้านติดไวรัสโคโรน่า
• แจ้งแผนการรับมือและวิธีป้องกันไวรัสโคโรน่ากับผู้ถือหุ้นและทุกคนที่เกี่ยวข้อง
• สร้างความมั่นใจให้กับพนักงานในช่วงวิกฤติโคโรน่าไวรัส โดยบอกแผนงานและการรับมือของร้าน
• จัดตั้งช่องทางสื่อสารภายในองค์กรและสำหรับลูกค้า เผื่อมีคำถามหรือมีการรายงานอัพเดตต่าง ๆ

2. เปิดใช้งานการสั่งอาหารออนไลน์หรือ Food Delivery ให้เร็วที่สุด

เมื่อจำนวนของผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ลูกค้าหลายคนกลัวที่จะเดินทางไปทานข้าวนอกบ้าน หลายคนจึงเลือกที่จะทำอาหารทานกันเองหรือไม่ก็สั่งอาหารมาทานที่บ้าน ซึ่งจากที่ธุรกิจ food delivery มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดอยู่แล้วในปี 2020 ก็ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นไปอีกในช่วงวิกฤติโคโรน่าไวรัสนี้ 

แล้วถ้าคุณกำลังลังเลว่าจะประยุกต์การสั่งอาหารออนไลน์หรือ food delivery นี้มาใช้กับร้านอาหารของคุณดีหรือเปล่า ขอบอกเลยว่าดีแน่นอน ! ซึ่งคุณสามารถเลือกขายในแอพสั่งอาหารชื่อดังในไทยของเราได้เลย ซึ่งมีทั้ง

• Line Man – ค่าบริการอยู่ที่ 35% 
• GrabFood – มีค่าบริการรายเดือน ไม่มีเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า
• Foodpanda – คิดค่าคอมมิชชั่นที่ 30 -35% จากยอดออร์เดอร์ทั้งหมด
• Get Food – ใช้งานได้ฟรี แต่จะบวกค่าจัดส่งตามระยะทางจริงแทนค่าบริการรายเดือน

คุณสามารถเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารกับแอพเหล่านี้เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเพิ่มโอกาสทางการขายอาหารและเครื่องดื่มของร้านได้ง่าย ทั้งยังช่วยลดความกังวลและอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

เคล็ดลับ: โปรโมท food delivery การสั่งอาหารออนไลน์ของร้านตามช่องทางโซเชียลมีเดียของคุณ (Facebook, Instagram, Line) อัพเดตข่าวสารลูกค้าผ่าน SMS และใส่ข้อมูลธุรกิจของคุณใน Google My Business ให้เรียบร้อยเพื่อให้ร้านเป็นที่รู้จักพร้อมกับเข้าถึงลูกค้าร้านอาหารของคุณในวงกว้างขึ้น

หรือเปิดใช้งานฟีเจอร์ Beep Delivery จากสโตร์ฮับ บริการส่งอาหารใหม่ที่ถูกพัฒนามาเพื่อ #Saveร้าน ด้วยค่าดำเนินการแสนถูก เริ่มต้นที่เดือนละ 2,500 บาทเท่านั้น

3. ลดการสัมผัสด้วยทางเลือกการจ่ายเงินออนไลน์อย่าง Ewallet

ภาพจาก Freepik

มีการรายงานของเว็บ Sanook ตามองค์การอนามัยโลก (WHO: World Health Organisation) ว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้สามารถแพร่กระจายผ่านธนบัตรที่เราใช้กันได้ ทั้งยังแนะอีกว่าเราควรก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อนี้

นั่นก็เพราะว่าการซื้อ-ขายด้วยเงินสดมักจะมีการเปลี่ยนถ่ายจากมือถึงมือ และรอยพับกับการกรีดธนบัตรยังเป็นการสร้างจุดอับที่สะสมเชื้อโรคทั้งในรูปแบบของแบคทีเรียและไวรัส

ซึ่งในส่วนของจีนและเกาหลีใต้เองได้มีการแยกและฆ่าเชื้อธนบัตรก่อนนำไปใช้อีกครั้ง

รู้แบบนี้แล้ว ก็คงถึงเวลาที่จะเตรียมพร้อมทางเลือกการจ่ายเงินด้วยระบบดิจิตอลกันแล้วใช่ไหมล่ะ ขอบอกว่าคุณสามารถพิจารณาตัวเลือกดังต่อไปนี้ :-

• payWave – เครื่องรูดบัตรเครดิตและบัตรเดบิตที่รองรับการจ่ายเงินแบบเพย์เวฟ แค่แตะบัตรที่เครื่องก็ชำระค่าสินค้าได้เลย
• QR Pay – จ่ายเงินด้วย QR Code
• Ewallet – กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์

และถึงแม้ว่าจะไม่มีไวรัสโคโรน่าเข้ามา ร้านของคุณเองก็ควรอำนวยความสะดวกประยุกต์ใช้การจ่ายเงินในรูปแบบดิจิตอลในร้านอยู่แล้ว เพราะยังไงยุคนี้ก็คือยุคของการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์และลูกค้าก็ชื่นชอบวิธีนี้มากกว่าเงินสดอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีการศึกษาระบุว่าประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมไร้เงินสด (cashless society) เร็วที่สุดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) โดยคิดเป็น 3 กลุ่มคือ

1. Banked – ใช้บริการการจ่ายเงินแบบไร้เงินสด (cashless payment) กับดิจิตอล แบงกิ้ง (digital banking) ทุกประเภท คิดเป็น 36% ของไทยและ 24% ของภูมิภาค
2. Underbanked – มีบัญชีธนาคารและใช้บริการจ่ายเงินแบบไร้เงินสดกับดิจิตอล แบงกิ้ง บ้าง คิดเป็น 46% ของไทยและ 25% ของภูมิภาค
3. Unbanked – ไม่ใช้การจ่ายเงินแบบ cashless หรือดิจิตอลแบงกิ้งเลย และไม่มีบัญชีธนาคารเลย คิดเป็น 18% ของไทยและ 51% ของภูมิภาค

เคล็ดลับ: สังคมไร้เงินสดกำลังมาแรงและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นเตรียมพร้อมการจ่ายเงินต่าง ๆ ไว้ให้พร้อมในช่วงที่ไวรัสโคโรน่าระบาดนี้ แล้วก็บอกให้ลูกค้ารู้ในทุกช่องทางการสื่อสารทั้งอีเมล, SMS และโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็เตรียมพร้อมวางแผนเปิดร้านออนไลน์เป็นของคุณเองในขั้นตอนต่อไป

4. ใช้ระบบ POS ที่มีร้านค้าออนไลน์ให้ฟรี

ใคร ๆ ก็ไม่อยากออกบ้านหรือไม่ก็พยายามออกให้น้อยที่สุดในช่วงนี้ที่การระบาดของโควิด-19 รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เลยส่งผลให้ลูกค้าหน้าร้านบางตาลงเรื่อย ๆ ไปตามกัน

และใช่แล้ว !

สิ่งที่คุณทำได้ในฐานะผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจช่วงนี้ก็คือพยุงยอดขายของร้านให้ได้ ?

แล้วจะทำยังไงเมื่อลูกค้าหน้าร้านลดลง​ ?

ตัวเลือกหนึ่งเดียวที่เหมาะและดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ การขายของออนไลน์ 

ร้านค้าออนไลน์หรือเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซนี่เองที่จะหยุดทุกข้อจำกัดในการขายของของคุณ เพราะลูกค้าสามารถช้อปออนไลน์ร้านคุณได้ทุกที่ทุกเวลา และที่เจ๋งยิ่งกว่าคือ ไม่ต้องเดินทางมาหน้าร้านให้เหนื่อย ไม่ต้องเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด และแม้จะนอนเล่นบนโซฟาที่บ้านก็ซื้อของออนไลน์ได้สบาย ๆ 

เช่น Lullaline ร้านขายกระเป๋าแฟชั่นผู้หญิงสุดชิคที่ขายในตลาดเจเจ ก็ขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ควบคู่กับไป และเตรียมสต๊อกสินค้าให้พร้อมขายในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้

ดังนั้นการเปิดร้านค้าออนไลน์ ฟรี ด้วยระบบ POS อย่างของ StoreHub ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับร้านของคุณในช่วงนี้ เพราะระบบของเรามีฟีเจอร์อีคอมเมิร์ซ ให้คุณมีเว็บขายของออนไลน์เป็นของตัวเองฟรี ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ให้คุณขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างมั่นใจ เพราะระบบของเราเชื่อมต่อข้อมูลสินค้าหน้าร้านและบนเว็บได้อย่างอัตโนมัติ ให้คุณขายของได้หลากหลายช่องทางยิ่งขึ้น ทั้งยังติดตามสินค้าคงคลังและนับสต๊อกทั้งหมดได้อย่างแม่นยำ ให้คุณคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้สำคัญมาก ๆ ในช่วงที่ร้านเจอพิษโควิดเช่นนี้ เพราะซัพพลายเออร์อาจจะจัดส่งสินค้าล่าช้า แต่คุณหมดห่วงได้ด้วยระบบ POS ครบวงจรอย่างของ StoreHub

5. จัดเตรียมสบู่ล้างมือหรือผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ (hand sanitiser) ไว้ในร้านเพื่อสุขอนามัยของลูกค้า พนักงาน และตัวคุณเอง

ภาพจาก Unspash

รู้หรือเปล่าว่าเชื้อ Coronavirus อาจจะอยู่บนมือของคุณก็ได้ ที่สำคัญเชื้อนี้สามารถแพร่กระจายได้จากมือ มือ ปาก จมูก และดวงตาอีกด้วย

เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องรักษาความสะอาดของมือและใส่ใจกับวิธีป้องกัน COVID-19 กันมากเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้ :-

• ล้างมือด้วยสบู่อย่างน้อย 20 วินาที เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกัน Coronavirus
• ใช้เจลล้างมือ ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อที่มือ หรือ hand sanitiser ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60-70% (ถ้าจะให้ดีต้องอยู่ที่ 70%) เช่น Dettol, GPO Clean Care และภูมิพฤกษา

และต่อไปนี้ก็คือเคล็ดลับการป้องกันCOVID-19 ที่คุณควรนำไปใช้ที่ร้านเพื่อป้องกันและดูแลพนักงานกับลูกค้าของคุณเอง

• ติดตั้งป้ายให้ความรู้เรื่องวิธีการล้างมือ การสวมหน้ากาก และแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อรักษาสุขอนามัยและป้องกันไวรัสโคโรน่าอย่างเต็มที่
• จัดเตรียมสบู่ไว้อ่างล้างมือให้พร้อม
• มีเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์และทางออกร้าน

6. จัดโปรโมชั่นและมีระบบสมาชิกสำหรับลูกค้า

ยอดขายร้านและลูกค้าที่มาหน้าร้านลดลงอย่างเห็นได้ชัดในทุกประเทศทั่วโลกหลังมีคนติดเชื้อ Coronavirus เพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะร้านที่ไม่ได้ขายสินค้าจำเป็น แต่ถ้าเป็นร้านของชำหรือร้านที่มีของอุปโภคบริโภคอย่างข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง หรือกระดาษชำระ ก็ยังถือว่าพอไปได้

แต่มีอีกหนึ่งอย่างที่ผู้ประกอบการ SMEs และเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้เปิดเผยข้อมูลในกลุ่มชุมชนคนขายของออนไลน์และออฟไลน์ของเราว่า สิ่งที่ช่วยให้หน้าร้านยังดำเนินไปได้และยังคงพยุงยอดขายได้อย่างน่าพอใจ ก็คือ . . . 

ลูกค้าขาประจำ หรือ ลูกค้าสมาชิก ของพวกเขา

ซึ่งก็ถือว่าจริง เพราะจากข้อมูลที่เรามีนั้นบอกว่าลูกค้าประจำใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าใหม่มากถึง 3 เท่า !

ดังนั้นการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้ากลับมาช้อปที่ร้านของคุณจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของร้านอย่างคุณไม่ควรมองข้ามในช่วงที่ร้านเจอพิษ Coronavirus ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายร้านค้าปลีกตกอยู่แล้ว

และนี่ก็คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้

• จัดโปรโมรชั่นเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของมากขึ้น โดยอาจจะเป็นซื้อ 1 แถม 1 หรือมอบส่วนลดก็ได้
• ใช้ระบบลูกค้าสมาชิกในร้านอย่าง Beep Cashback เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและมอบรางวัลจูงใจในการช้อป จะได้สร้างโอกาสทางการขาย และอัพเดตโปรโมชั่นดี ๆ เพื่อให้ลูกค้าของคุณกลับมาที่ร้านบ่อย ๆ

7. ให้ความสำคัญกับแบรนดิ้ง (Branding) และเตรียมพร้อมกลยุทธ์โซเชียลมีเดีย (Social Media)

ในฐานะผู้ประกอบการรายย่อย คุณคือหัวใจสำคัญของร้านและธุรกิจของคุณ ทั้งยังมีบทบาทอย่างมากในด้านของเศรษฐกิจ

เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่คุณพูดและทุกการกระทำย่อมส่งผลต่อร้านและเศรษฐกิจของเรา

เราอยากให้คุณเป็นกระบอกเสียงและใช้เรื่องราวของร้านหรือแบรนด์สื่อสารกับลูกค้าหรือแม้กระทั่งกับพนักงานในช่วงเวลานี้ เป็นการบอกว่าตอนนี้คุณกำลังวางแผนธุรกิจและบริหารจัดการพนักงานยังไง แล้วจะอำนวยความสะดวกลูกค้าในการซื้อสินค้าได้ยังไงบ้างในช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดเช่นนี้

และแน่นอนว่าคุณต้องไม่ลืมที่จะให้ความรู้พวกเขาผ่านโพสต์ Social Media ของร้านด้วย เช่น

• เคล็ดลับการดูแลตัวเองและการมีสุขอนามัยที่ดีเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อและติดเชื้อโควิด-19
• ข้อควรทำและไม่ควรทำ รวมถึงสิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Coronavirus
• เคล็ดลับสร้างแรงบันดาลใจสำหรับเจ้าของธุรกิจด้วยกัน
• แชร์ข้อมูลสำคัญและน่าเชื่อถือจากรัฐบาล
• หากคุณมีช่วยเหลือในเรื่องการป้องกันและเยียวยา COVID-19 เช่น แจกหน้ากากอนามัยและแจกเจลล้างมือ เป็นต้น
• บอกต่อเรื่องราวดี ๆ กับลูกค้าสมาชิกและลูกค้าประจำของคุณ ซึ่งคุณสามารถโพสต์ขอบคุณที่ลูกค้าแวะมาอุดหนุนได้

เราหวังว่าเคล็ดลับการรับมือกับ Coronavirus (COVID-19) นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการเช่นคุณและธุรกิจของคุณเองนะคะ

หากมีเรื่องราวดี ๆ หรือมีเทคนิคเพิ่มเติมที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจในช่วงวิกฤติเช่นนี้ สามารถคอมเม้นต์ด้านล่างได้เลยนะคะ แล้วเราจะช่วยกันขับเคลื่อนธุรกิจของเราให้ผ่านพ้นเวลานี้ไปด้วยกันค่ะ

สำหรับช่วงนี้ ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองและปลอดภัยจากไวรัสร้ายนี้นะคะ