Talk to our business consultant: +60 3 9212 6688

คลายล็อคดาวน์ กทม. กับ 2 สิ่งที่ร้านอาหารจำเป็นต้องมีในยุค “New Normal”

คลายล็อคดาวน์ กทม. กับ 2 สิ่งที่ร้านอาหารจำเป็นต้องมีในยุค “New Normal”

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีการประกาศผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา หลัง ศบค. – ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีมติให้เปิดบางสถานที่และบางกิจกรรม ซึ่งก็มีกว่า 13 สถานที่และกิจกรรมเปิดให้บริการหลังคลายล็อคดาวน์ และร้านอาหารก็เป็นหนึ่งในนั้น

คลายล็อคดาวน์ กทม. หมายถึงอะไร และร้านอาหารต้องมีมาตรการยังไง ?

เมื่อมีการประกาศคลายล็อคดาวน์ในกรุงเทพ ก็หมายความว่า ร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดหน้าร้านได้อีกครั้ง !

แต่เราก็แน่ใจว่า ไม่ใช่ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือว่าร้านเครื่องดื่มทั้งหมดที่พร้อมเปิดในช่วงเวลานี้

เพราะแม้จะมีการปลดล็อคดาวน์ในเขต กทม. แต่ร้านอาหารก็ต้องมีมาตรการเคร่งครัดเพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ไม่ให้กลับมาแพร่ระบาดหนักอีกครั้ง ซึ่งได้แก่

  1. ตรวจวัดอุณหภูมิพนักงานและลูกค้าทุกคน สำหรับร้านอาหารที่มีพื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร
  2. มีการคัดกรอง อาการป่วย ไข้ ไอ จาม หรือเป็นหวัดพนักงานและผู้ใช้บริการทุกคนตามขีดความสามารถ สำหรับร้านที่มีพื้นที่น้อยกว่า 200 ตารางเมตร
  3. เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลหรือที่นั่งในร้านอาหารอย่างน้อย 1.5 เมตร หรือหากระยะห่างระหว่างที่นั่งหรือบุคคลน้อยว่า 1.5 เมตร ควรมีฉากกั้นและต้องมีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
  4. งดอาหารประเภทบุฟเฟต์ ที่ลูกค้าต้องตักหรือหยิบเอง แต่ให้บริการบุฟเฟต์ที่ลูกค้าสั่งจากรายการอาหารได้
  5. ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่ขายสุรา สามารถเปิดได้แต่ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน
  6. ห้ามมีการแสดงสดหรือเล่นดนตรี
  7. ร้านควรมีฉากแผ่นใสกั้นระหว่างลูกค้าและอาหาร
  8. มีจุดล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลไม่ต่ำกว่า 70% หรือมีน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ทางเข้า-ออก รวมถึงบริเวณต่าง ๆ ภายในร้าน
  9. ทำความสะอาดห้องน้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง ถ้าไม่สามารถทำความสะอาดได้ ควรงดให้บริการห้องน้ำ
  10. ทำความสะอาดโต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เช่น โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (น้ำยาฟอกขาว) 0.1% ทุกครั้งเมื่อใช้บริการเสร็จ
  11. เว้นระยะอย่างน้อย 1 เมตรสำหรับการต่อแถวซื้ออาหารและรอเข้าร้าน (ข้อนี้สามารถใช้ได้กับการต่อแถวจ่ายเงินได้เช่นกัน)
  12. พนักงานในร้านต้องแต่งกายให้สะอาด สวมถุงมือ ใส่หมวก รวบผม สวมผ้ากันเปื้อน และใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า 

นอกจากนี้ยังมีมาตรการสำหรับร้านอาหารอีกมากมายที่นี่ ซึ่งร้านอาหารต้องให้ความสำคัญทุกข้อเพื่อวามปลอดภัยของพนักงานในร้านและลูกค้า

ข้อแนะนำสำหรับเจ้าของร้านอาหารมีอะไรบ้าง ?

ตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทาง กทม. กำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้น มีข้อแนะนำสำหรับเจ้าของร้านอาหาร ดังนี้ :-

  • ควรมีระบบจองคิวออนไลน์สำหรับร้านค้าขนาดใหญ่ และมีการจองคิวหน้าร้านพร้อมกำหนดเวลาให้ลูกค้าเข้าบริการอย่างชัดเจน
  • แนะนำให้แจกบัตรคิวลูกค้าและให้ลูกค้ากลับมาทานอาหาร สำหรับร้านอาหารขนาดเล็กขนาดคูหาหรือร้านแคบ ทั้งหน้าร้านและภายในร้านจะได้ไม่แออัด
  • โปรโมทให้ลูกค้าจ่ายเงินผ่าน QR Code หรือโอนเงินออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการสัมผัสเงินสดอย่างธนบัตรหรือเหรียญ
  • เครื่องปรุงรสในร้านควรเป็นแบบซอง
  • มีสัญลักษณ์จุดยืนให้ลูกค้าและมีพนักงานคอยควบคุม จัดคิวให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อทางเท้าหรือสถานที่ใกล้เคียง

ซึ่งคำแนะนำเหล่านี้จะกลายเป็น “New Normal” สิ่งปกติแบบใหม่ในยุค COVID-19 สำหรับร้านอาหาร

เปิดร้านอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless F&B Business) ในยุค New Normal

แม้จะมีมาตรการคลายล็อคดาวน์ในกรุงเทพและอนุญาตให้ร้านอาหารกลับมาเปิดแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกคนจะรู้สึกอุ่นใจและอยากออกมาเผชิญกลุ่มคนเหมือนแต่ก่อน

ยิ่งเป็นการสัมผัสสิ่งของที่คนอื่นหยิบจับมาก่อนหน้า ก็ยิ่งจะจิตตกและหลอนกันไปอีก

ดังนั้นสิ่งที่จะตอบโจทย์ร้านอาหารกับลูกค้าได้ดีที่สุดก็คือ การเปิดร้านอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless F&B Business)

  • การสั่งอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless Ordering)
  • การจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment)
  • ส่งอาหารเดลิเวอรี่ (Food Delivery) และให้ลูกค้าซื้ออาหารกลับบ้านแทนการทานอาหารที่ร้าน
  • เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและที่นั่ง (Social Distancing)

ดังนั้นทั้งสองอย่างต่อไปนี้จึงเป็นสิ่งที่ร้านอาหารควรมีเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในยุค “New Normal” หลัง COVID-19

  • การสั่งอาหารและการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless payment and ordering) สำหรับลูกค้าที่ซื้ออาหารกลับไปทานบ้านและลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้าน
  • Food Delivery บริการสั่งอาหารออนไลน์และส่งตรงถึงบ้านลูกค้า

แล้วทำไมต้องมีสองอย่างนี้ ?

นั่นก็เพราะว่าแม้เคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคสโรน่า (COVID-19) ในไทยของเราจะลดลงอย่างน่าพอใจ แต่เราก็ยังวางใจไม่ได้ 

ดังนั้นเราต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก

และเมื่อร้านอาหารมีบริการ Food Delivery กับการสั่งอาหารพร้อมการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส ร้านอาหารเองก็จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ เพราะไม่ต้องหยิบจับเมนูหรือสัมผัสอะไร แล้วร้านอาหารก็จะได้ใจลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาจะกลับมาที่ร้านอีกเมื่อรู้สึกปลอดภัย

ทั้ง 2 วิธีนี้จึงจะเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายในช่วง COVID-19 และยุค “New Normal” ช่วยให้ร้านอาหารไปต่อได้ง่ายในช่วงเวลาที่เรากลับสู่โหมดปกติรูปแบบใหม่นี้

Beep Cashback Loyalty Program แบบคืนเงินสำหรับร้านอาหาร

การจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส (Contactless Payment) และการสั่งอาหารแบบไร้สัมผัส (Contactless Ordering) สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านการสั่งอาหารผ่าน QR Code และระบบจ่ายเงินออนไลน์ที่ทำง่ายผ่านมือถือ

หากจะถามหาข้อดีของการสั่งอาหารและจ่ายเงินผ่าน QR Code ก็ได้แก่

  • ลูกค้าและพนักงานเลี่ยงการสัมผัสเมนู บิล และใบเสร็จได้
  • เป็นระบบอัตโนมัติที่ติดตามและเก็บข้อมูลลูกค้าได้ง่าย ร้านอาหารจะมีชื่อและเบอร์โทรลูกค้าเพื่อติดต่อและใช้ในการสร้างความภักดีลูกค้าหรือ Loyalty Program ได้
  • ตอบรับสังคมไร้เงินสดและการจ่ายเงินแบบไร้สัมผัส
  • ลดการสัมผัสระหว่างลูกค้าและพนักงาน
  • ลดภาระงาน ไม่ต้องขยับโต๊ะหรือจัดที่นั่งบ่อย ๆ 
  • รวดเร็วขึ้นและง่ายกว่าเดิม ทั้งขั้นตอนการสั่งอาหารและจ่ายเงิน

แต่เราต้องไม่ลืมที่จะพูดถึง Food Delivery ด้วย จริงไหม​ ?

เพราะข้อดีของ Food Delivery ก็ช่วยร้านอาหารไปต่อได้และปลอดภัยเ้ช่นกัน ซึ่งก็คือ

  • สะดวกสบายต่อลูกค้า สามารถสั่งอาหารออนไลน์ได้จากที่บ้าน
  • ลดแรงงานในร้านอาหาร
  • ช่วยเสิร์ฟอาหารลูกค้าที่เดินทางมาร้านไม่ได้

ถ้าเรารวมสองอย่างนี้ในร้านอาหารได้ ร้านก็จะดูแลความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานได้พร้อม ๆ กับเพิ่มยอดขายให้ร้านอาหารกับคาเฟ่ได้ง่ายขึ้นด้วย

ลูกค้าจะวางใจร้านอาหารและสัมผัสได้ถึงความใส่ใจพร้อมซัพพอร์ตร้านของคุณในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้อย่างแน่นอน

เปิดใช้งาน Food Delivery เป็นของคุณเองด้วย Beep Delivery จากสโตร์ฮับ

Beep Delivery แจ้งเตือนผ่าน POS ทันทีเมื่อมีออร์เดอร์เข้า

Beep Delivery คือ บริการ Food Delivery ที่ร้านอาหารและลูกค้าจะต้องหลงรัก !

เพราะฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณมีบริการส่งอาหารเดลิเวอรี่เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งมาร์เก็ตเพลส Food Delivery รายอื่น

และนี่คือหลักการทำงานของ Beep Delivery…

เมื่อร้านอาหารลงทะเบียนเปิดใช้งาน Beep Delivery ร้านก็จะได้เว็บไซต์ของร้านเอง ซึ่งทางร้านอาหารสามารถส่งลิงค์นี้ไปยังลูกค้าได้เลย

แล้วลูกค้าก็จะเลือกทานอาหารจากร้านคุณผ่านลิงค์ที่ว่านี้ได้เลย เพียงแค่

  1. เลือกว่าจะให้ “ส่งอาหารเดลิเวอรี่” หรือ “มารับอาหารที่ร้านเอง”
  2. เลือกดูเมนูที่ต้องการทานและกดสั่ง
  3. ใส่ที่อยู่ในการส่งอาหารและรายละเอียดต่าง ๆ 
  4. จ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, LINE Pay หรือ Ewallet
  5. ลูกค้าได้รับอาหารและทานเมนูโปรดได้เลย !

หรือคุณสามารถดูหลักการทำงานของ Beep Delivery ได้ง่าย ๆ ที่นี่:

ตอนนี้ร้านอาหารของคุณพร้อมสำหรับยุค “New Normal” นี้หรือยัง ?

เราเชื่อว่า “New Normal” จะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับร้านอาหารและลูกค้า

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้ผ่านช่วงนี้ไปได้

เพราะขึ้นอยู่กับว่าใครจะปรับตัวให้กับ “New Normal” ได้เร็วแค่ไหน

ดังนั้นจงเตรียมร้านอาหารหรือคาเฟ่ของคุณให้พร้อม เพื่อให้ร้านของคุณพัฒนาอย่างต่อเนื่องและตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีที่สุด

สุดท้ายนี้ขอให้ร้านอาหารของคุณปรับตัวได้โดยเร็วและดำเนินการไปอย่างราบรื่นนะคะ

ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานแล้ว อย่าลืมดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วยนะ

Beep Delivery ฟีเจอร์ Food Delivery สำหรับร้านอาหาร โดยระบบ POS สโตร์ฮับ

Share this Post

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin
Share on pinterest
Share on print
Share on email
⏳ Limited-time only! Get up to 80% OFF POS Hardware!Hurry! Only for the first 150 customers!

✔️ Manage your orders, sales, and payments all in one place

✔️ Manage your store inventory and streamline kitchen operations

✔️ Track and monitor your store performance with detailed analytics 

... and so much more! T&C Apply. Get it now!👇

Hey there! Please enter your store name.

.storehubhq.com