หากคุณกำลังสงสัยว่าจะต้องขายเสื้อผ้ายังไงให้รวย บอกเลยว่า ทำเล คืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญ ซึ่งถ้าอยากขายดีและมีลูกค้าเข้าร้านบ่อย ๆ คุณก็ต้องเลือกทำเลทองที่อยู่ให้กลุ่มเป้าหมาย ต้องเลือกเปิดร้านในพื้นที่ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายผ่านเป็นประจำ ร้านขายเสื้อผ้าของคุณจึงจะอยู่ในสายตาของพวกเขา เช่น หากเรานึกถึงย่านที่มีร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ก็จะมียูเนียนมอล สยาม และตลาดนัดรถไฟ เป็นต้น 

จำไว้ว่าสไตล์เสื้อผ้าต้องสอดคล้องกับทำเลในการขาย เพราะแม้จะอยู่ในพื้นที่ที่คนพลุกพล่าน แต่อยู่ผิดที่ ก็ไม่มีใครสนใจอยู่ดี ดังนั้นการเลือกทำเลจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญต่อธุรกิจร้านขายเสื้อผ้า ลองลิสต์ออกมาสิว่าทำเลไหนที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และดูว่ามีพื้นที่ไหนบ้างที่สะดวกในการขายเสื้อผ้า จากนั้นก็ศึกษาราคาเช่าแล้วนำมาเทียบกันว่าขายที่ไหนถึงจะสะดวกสำหรับคุณและคุ้มมากที่สุด

การเปิดร้านขายเสื้อผ้านั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมีหน้าร้านเสมอไป เพราะจริง ๆ แล้วคุณสามารถขายเสื้อผ้าแฟชั่นได้ถึง 3 แบบด้วยกัน และแต่ละแบบก็ใช้งบที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ :

1. หน้าร้านขายเสื้อผ้า ตึกแถว หรือ อาคาร

ข้อดีของการมีหน้าร้านขายเสื้อผ้าก็คือ ลูกค้าสามารถมองเห็นและจดจำตำแหน่งที่ตั้งร้านค้าได้ดี สามารถมาเลือกซื้อสินค้าได้ด้วยตัวเอง และคุณในฐานะเจ้าของร้านก็สามารถพูดคุยเพื่อบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี หากคุณบริการลูกค้าได้น่าประทับใจ พวกเขาก็มีโอกาสที่จะกลับมาที่ร้านอีกครั้ง ส่วนงบในการเปิดร้านขายเสื้อผ้าแบบมีหน้าร้านก็อาจจะสูงหน่อย โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 50,000 บาทเพราะจะต้องซื้อสินค้ามาสต๊อก จ่ายทั้งค่าเช่าสถานที่ ค่าน้ำ และค่าไฟ หรือถ้ามีที่เป็นของตัวเองก็อาจจะใช้จ่ายน้อยลงหน่อย

👍🏻 ข้อดี 👍🏻 จดจำง่าย ตัวเปรียบเทียบน้อย ทำการบริการ และการตกแต่งได้ง่าย ซ่อมบำรุงสถานที่ได้งาน มีประโยชน์ใช้สอยอื่นๆจากพื้นที่ได้ เช่นที่พักอาศัย ห้องทำงาน หรือมีพื้นที่จัดเก็บสต็อกสินค้า

👎🏻 ข้อเสีย 👎🏻 ต้องเป็นเจ้าของที่ อาคาร หรือ เช่าซื้อรายปี มีต้นทุนในการเริ่มต้นสูง มีค่าตกแต่งสถานที่ ซ่อมบำรุง ทำป้ายหน้าร้านต่างๆ ไปจนกระทั่งภาษีป้ายที่จะต้องเสียเป็นรายปี

2. ขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด/ห้างสรรพสินค้า

หากขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด หรือเปิดร้านขายเสื้อผ้าในห้าง คุณจะมีอิสระในการขาย คือไม่จำเป็นต้องปักหลักอยู่ที่ร้านเพียงอย่างเดียว สามารถไปขายที่ไหนก็ได้ที่มีล็อคว่าง ซึ่งราคาค่าเช่าก็จะแตกต่างกันไปตามตลาดหรือห้างที่ไป อาจจะเริ่มที่วันละ 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไปขาย หรืออาจจะต้องเสียค่าอุปกรณ์ เช่น หุ่นโชว์ ราวแขวน และไม้แขวนเสื้อ แล้วก็จะมีค่าเดินทางต่าง ๆ ที่คุณต้องพิจารณาและคำนวณให้รอบคอบ ส่วนงบที่ใช้ในการลงทุนขายเสื้อผ้าตามตลาดนัดนั้นอยู่ที่อย่างน้อย 10,000 บาท

👍🏻 ข้อดี 👍🏻 สามารถเลือกทำเลที่ต้องการได้หลากหลาย ตกแต่งสถานที่เองได้ มีคนสัญจรทั่วไปอยู่แล้ว สร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้า ลูกค้าสามารถลองดูสินค้าจริงก่อนได้

👎🏻 ข้อเสีย 👎🏻 ตัวเปรียบเทียบเยอะ มีสิทธิ์โดนไล่ที่หรือเพิ่มราคาค่าเช่าเพื่อบีบให้ออก ไม่เป็นที่จดจำหรือแตกต่างมากนัก

3. ขายเสื้อผ้าออนไลน์

มาถึงการเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์วิธีสุดท้ายกันบ้าง วิธีนี้เป็นวิธีที่เรียกได้ว่าประหยัดที่สุดและสะดวกสบายที่สุด เพราะคุณสามารถขายเสื้อผ้าออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงแต่ต้องมีเว็บขาย, เพจเฟสบุ๊ค, ไอจี, ไลน์ แล้วก็ลงทุนกับสต๊อกเสื้อผ้าและอุปกรณ์จัดส่งต่าง ๆ เท่านั้น ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านให้ยุ่งยาก แต่อาจจะต้องลงทุนกับการตลาดออนไลน์ และให้ความสำคัญกับเพจกับไอจีร้านมากหน่อย หากอยากลองขายเสื้อผ้าออนไลน์ หรือขายบนเว็บไซต์ของตัวเองก็สามารถเริ่มทำได้ด้วยงบเพียง 3,000 – 5,000 บาท

👍🏻 ข้อดี 👍🏻 ใช้ต้นทุนไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับทำเลอื่นๆ เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ปรับเปลี่ยนความต้องการได้ทันใจรวดเร็ว สะดวกสบายสำหรับเจ้าของร้านเพราะสามารถดูแลร้านจากที่ไหนก็ได้

👎🏻 ข้อเสีย 👎🏻 ตัวเปรียบเทียบเยอะเช่นกัน เพราะร้านออนไลน์เยอะ ต้นทุนค่าทำเลอาจจะไม่สูงแต่อาจจะต้องเสียค่าทำการตลาดหนัก ไม่มีที่ให้ลองสินค้า ลูกค้าไม่เชื่อถือ ใช้ระยะเวลาในการสร้างแบรนด์ค่อนข้างนาน