เคล็ดลับ 5 ข้อในการลดต้นทุนการจัดการธุรกิจค้าปลีก
คุณต้องการให้ธุรกิจค้าปลีกของคุณเติบโตและล้ำหน้ากว่าใครใช่หรือไม่ ? ถ้าใช่ คุณต้องลดต้นทุนการจัดการธุรกิจค้าปลีกและต้นทุนดำเนินงานลง ซึ่งต้นทุนการดำเนินงานก็คือ ค่าใช้จ่ายในการบริหารธุรกิจ, การบำรุงรักษาในแต่ละวัน, ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และต้นทุนสินค้าที่ขายไปหรือ COGS (cost of goods sold)
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของต้นทุนการดำเนินงาน :–
- ค่าเช่า
- ค่าสาธารณูปโภค
- เงินเดือนพนักงาน
- ค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด
- ค่าอุปกรณ์สำนักงาน
- ค่าประกันและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกฎหมาย
- ค่าซ่อมและค่าบำรุงรักษา
เมื่อมีค่าใช้จ่ายมากมายเช่นนี้ คุณจะเริ่มจากที่ไหนและเริ่มอย่างไรในการลดต้นทุนการจัดการธุรกิจค้าปลีกกับลดต้นทุนการการดำเนินงานของคุณ
ไม่ต้องกังวลไป เรามีเคล็ดลับ 5 ข้อที่แสนจะมีประโยชน์มาบอก
1. เปลี่ยนงานที่ต้องทำเองและกินเวลาให้เป็นงานอัตโนมัติ
เพราะเวลาเป็นเงินเป็นทอง
ยิ่งคุณใช้เวลาไปกับงานที่ไม่จำเป็นน้อยเพียงใดก็ยิ่งดีเท่านั้น
วิธีหนึ่งที่ใช้ได้ผลและมีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการธุรกิจค้าปลีกและการลดต้นทุนการดำเนินงานก็คือ การใช้ตัวช่วยในการบริหารธุรกิจและกระบวนการเพื่อเปลี่ยนขั้นตอนต่าง ๆ ที่คุณต้องทำเองให้เป็นแบบอัตโนมัติ เช่น
- การตรวจสอบสินค้าในคลังและการคืนสินค้า
- ชั่วโมงที่ปฏิบัติงาน
- รายการสินค้าขายดี
- รายงานยอดขายประจำวัน
- และอีกมากมาย!
ใช้ระบบ POS อัจฉริยะแบบของ StoreHub ซึ่งสามารถนำไปรวมกับซอฟต์แวร์ทำบัญชีและมีระบบการจัดการที่มีประโยชน์ดังนี้ :–
- ระบบบริหารสินค้าคงคลัง
- ระบบบริหารพนักงาน
- ระบบ CRM (การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า)
ใช้ซอฟต์แวร์ทำบัญชี บริหารทรัพยากรมนุษย์ และบัญชีเงินเดือนในการทำธุรกิจ เพื่อลดเวลาที่ใช้ไปกับงานเอกสาร การใช้ซอฟต์แวร์กับระบบดังที่กล่าวมาจะช่วยปรับปรุงขั้นตอนการทำงานพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพ และยังสามารถทำการแก้ไขและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ที่สำคัญที่สุดคือ ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากพนักงาน ซึ่งหมายความว่าเวลาที่ใช้ไปกับการแก้ไขข้อผิดพลาดจากการทำงานของพนักงานจะลดลงด้วย
2. เปิดร้านค้าออนไลน์
หนึ่งในวิธีการลดต้นทุนการดำเนินงานและการจัดการธุรกิจค้าปลีกของคุณก็คือ การเปิดร้านออนไลน์
และต่อไปนี้คือประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของการเปิดร้านค้าปลีกออนไลน์:
- สามารถขายสินค้าได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า, ประกัน, ค่าตกแต่งภายใน และอื่น ๆ
- เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้นและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย
- เปิดร้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์
สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงก่อนจะเปิดร้านออนไลน์คือ การบริหารสินค้าคงคลัง คุณต้องระมัดระวังในเรื่องของการจัดสรรสินค้าหน้าร้านและร้านออนไลน์จะได้ไม่ให้เกิดปัญหาต่าง ๆ อย่างการขายเกินจำนวนหรือการบริหารสต็อกผิดพลาด และเมื่อใช้ตัวช่วยอย่าง StoreHub Ecommerce ที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลสินค้าหน้าร้านและร้านออนไลน์ให้ตรงกันได้ คุณจะไม่มีวันขายสินค้าเกินจำนวนหรือสั่งสินค้ามามากเกินไปเลย เพราะการบริหารหน้าร้านและร้านออนไลน์จากแพลตฟอร์มอย่าง StoreHub Ecommerce จะช่วยลดปริมาณงานและเวลาของคุณกับพนักงานได้อย่างแน่นอน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมว่า StoreHub Ecommerce จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการธุรกิจค้าปลีกของคุณได้อย่างไร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมตอนนี้เลย
3. การจ้างพนักงานชั่วคราว
การจ้างพนักงานชั่วคราว คือ การมอบหมายงานให้บุคคลภายนอก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการดำเนินงาน
คุณควรจ้างพนักงานชั่วคราวในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานประจำ เช่น การบันทึกข้อมูล การทำโซเชียลมีเดีย และการตรวจสอบสต็อก
การจ้างพนักงานชั่วคราวจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานในธุรกิจค้าปลีกของคุณได้ คือ
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการสัมภาษณ์, การจัดหาพนักงาน, การจ้าง และการอบรม
- ได้งานที่เร็วและดีกว่าเพราะพนักงานชั่วคราวสามารถใส่ใจกับงานได้อย่างเต็มที่ เมื่อเทียบกับพนักงานประจำที่ต้องทำหน้าที่หลายอย่างพร้อม ๆ กัน
ก่อนจะตัดสินใจจ้างพนักงานชั่วคราว ควรพิจารณาลักษณะงานก่อน เช่น มีข้อมูลสำคัญ, สัญญาทางกฎหมาย, การปกป้องข้อมูลหรือไม่ แล้วคุณจะสังเกตและบริหารพนักงานจากภายนอกอย่างไร
ต่อไปนี้คือตัวอย่างเว็บไซต์ที่คุณสามารถจ้างพนักงานอิสระได้ :–
4. มารักษ์โลกกันเถอะ !
คุณติดตามสินค้าคงคลังอย่างไร? จดใส่กระดาษหรือเปล่า? หรือคุณนับสินค้าทุกวันและใส่ข้อมูลลงในตาราง excel คุณเห็นด้วยไหมว่าการทำเช่นนี้สิ้นเปลืองทั้งเวลาและกระดาษ
วิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานก็คือแนวคิดรักษ์โลกนั่นเอง
แนวคิดรักษ์โลกเป็นผลดีกับทั้งสิ่งแวดล้อมและธุรกิจของคุณ
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการรักษ์โลกเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานในธุรกิจค้าปลีก :–
- ลดค่าไฟฟ้าด้วยการใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน เช่น หลอด LED และหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (CFL) ซึ่งใช้ได้นานกว่า ประหยัดพลังงานกว่า และให้แสงที่สว่างกว่า
- ซื้อและใช้กระดาษให้น้อยลง โดยเริ่มจากคิดหาขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษ
- ใช้ระบบคลาวด์และบันทึกไฟล์ของคุณบนเครือข่ายคลาวด์อย่าง Google Drive ซึ่งคุณสามารถแก้ไขไฟล์ได้ทันที ลองมาดู StoreHub หากคุณต้องการระบบ POS ดี ๆ ที่ทำงานบนคลาวด์!
- ในกรณีที่ท่อน้ำในร้านชำรุด ซ่อมท่อที่รั่วทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองน้ำ
5. ลดอัตราการลาออกของพนักงาน
บุคลากรคือทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดสำหรับทุก ๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก และนี่คือเหตุผลหลักว่าเหตุใดการลาออกของพนักงานจึงมีค่าใช้จ่ายมากมายเมื่อมีพนักงานออกจากบริษัทไป ปัจจัยที่คุณควรคำนึงเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลาออกของพนักงานได้แก่
- ค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานใหม่ เช่น การลงประกาศรับสมัคร การสัมภาษณ์ การคัดกรอง การจ้าง
- ค่าใช้จ่ายในการเตรียมพร้อมพนักงานใหม่ เช่น ระยะเวลาการอบรม
- กำลังใจของทีมและวัฒนธรรมการทำงาน โดยเฉพาะเมื่อพนักงานที่เป็นที่รักของผู้อื่นลาออก และคนอื่น ๆ เกิดคำถามว่าเพราะเหตุใด หรือคิดว่าจะลาออกเช่นกัน
- ประสิทธิภาพการทำงานที่หายไป เพราะพนักงานใหม่อาจใช้เวลาถึง 1-2 ปีในการทำงานได้ระดับเดียวกับพนักงานเดิม
- ความผิดพลาดจากมนุษย์ เนื่องจากพนักงานใหม่มีโอกาสทำผิดพลาดมากกว่าพนักงานเดิมเพราะพวกเขายังไม่คุ้นเคยกับระบบหรือขั้นตอนการทำงาน
ปัจจัยเหล่านี้ (และอื่น ๆ อีกมากมาย) อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่สูงได้ โดยเฉพาะเมื่ออัตราการลาออกสูง วิธีหนึ่งในการลดต้นทุนการดำเนินงานในธุรกิจของคุณคือการใส่ใจความสุขของพนักงาน ซึ่ง 3 ข้อต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรเน้นหากต้องการรักษาพนักงานให้ได้มากขึ้น :–
- การเติบโต
- คุณค่า
- ความใส่ใจ
ผู้คนแสวงหาการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
การให้โอกาสพวกเขาได้เลื่อนขั้น (เช่น จากพนักงานเสิร์ฟไปเป็นหัวหน้างานและเป็นผู้จัดการ) คือ วิธีที่ดีในการรักษาพวกเขาไว้ เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับลักษณะงานที่เขาทำให้บริษัทเสมอและเรื่องที่ว่างานของพวกเขามีคุณค่าต่อบริษัทมากน้อยเพียงใด ดูว่าพวกเขายังชอบทำงานในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและเคารพซึ่งกันและกันหรือไม่ แล้วก็แสดงให้พนักงานของคุณเห็นว่าคุณเห็นคุณค่าและใส่ใจพวกเขา ซึ่งทำได้โดยการสร้างบทสนทนาที่มีความหมายและแสดงออกด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างอย่างเป็นธรรม, การขึ้นค่าจ้างให้อย่างสม่ำเสมอ, ประกันสุขภาพ ฯลฯ
เริ่มลดต้นทุนการดำเนินงานกันเลย!
ลองพิจารณาดูว่าคุณมีค่าใช้จ่ายในส่วนไหนมากที่สุดและดูว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายส่วนนั้นโดยนำเคล็ดลับเหล่านี้มาปรับใช้ได้อย่างไร
คุณคิดว่ามีวิธีอื่นอะไรบ้างในการลดต้นทุนการจัดการธุรกิจค้าปลีกและการดำเนินงาน ?
แชร์เคล็ดลับของคุณได้โดยการแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้เลย !