7 เคล็ด(ไม่)ลับ สูตรคำนวณร้านเสื้อผ้าแฟชั่น เพิ่มกำไรทันใจ

7 เคล็ด(ไม่)ลับ
“สูตรคำนวณร้านเสื้อผ้าแฟชั่น” เพิ่มกำไรทันใจ

วงการแฟชั่นอาจโดดเด่นเรื่องดีไซน์ แต่เบื้องหลัง “ชุดสวย” ทุกตัวคือ ตัวเลข — ต้นทุนด้ายหนึ่งเส้น ไปจนถึงค่าเสียโอกาสของสต๊อกค้าง งานวิจัยของ National Retail Federation ระบุว่าปัญหาสต๊อกเกินและขาดทำให้ค้าปลีกทั่วโลกสูญเงินมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี (NRF 2025).

บทความนี้รวบรวม สูตรคำนวณร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ที่ใช้ได้จริง พร้อมสาธิตการใช้ StoreHub POS เพื่อเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นกำไร—แบบเรียลไทม์ ทั้งหน้าร้านและออนไลน์

สต๊อกค้างคือฝันร้ายของบูติก

แฟชั่นเป็นหมวดสินค้าที่ เทรนด์เปลี่ยนเร็วที่สุด ผลสำรวจ CSIMarket Q1/2025 ชี้ว่า Inventory Turnover อุตสาหกรรมแฟชั่นอยู่ที่ 10.86 รอบ/ปี (CSIMarket). ถ้าร้านคุณหมุนได้ต่ำกว่า 7 รอบ/ปี เงินทุนจะจมในชุดที่เทรนด์ผ่านไปแล้ว แถมต้องแบก Holding Cost สูงถึง ≈ 25% /ปี.

  • StoreHub Low Stock Alert จะแจ้งเตือน SKU ที่ขายช้า > 60 วัน
  • แดชบอร์ด “Sell-Thru” แสดง Turnover รายสัปดาห์แบบกราฟสีแดง—รู้ทันทีว่าต้อง Markdown หรือจัด Bundle

ตีต้นทุนแฟชั่นให้แตก

ต้นทุนเสื้อผ้า = วัตถุดิบ + ค่าแรงตัดเย็บ + ค่าเสื่อมแพตเทิร์น + ค่าถ่ายภาพ + ค่าขนส่ง. เจ้าของร้านที่คำนวณเฉพาะ “ค่าผ้า” จึงมักสงสัยว่ากำไรหายไปไหน—เพราะต้นทุนจริงสูงกว่าที่คิด


ต้นทุนรวม = วัตถุดิบ + ค่าแรง + ค่าอื่น
ต้นทุนต่อชิ้น = ต้นทุนรวม ÷ จำนวนผลิต
  

กรอกตัวเลขใน StoreHub Backoffice ครั้งเดียว ระบบจะคำนวณ COGS อัตโนมัติทุกครั้งที่ขาย ไม่ต้องเปิด Excel ไล่บวกเองให้ปวดหัว

ฤดูกาลกับเทรนด์—ต้นทุนที่ซ่อนอยู่

คอลเลกชัน S/S ใช้เวลา ทำเงิน ไม่ถึง 90 วัน เมื่อเทรนด์ขยับเร็ว การสต๊อกล่วงหน้าเกินจริงจะเพิ่ม Holding Cost และดันให้มาร์จิ้นจริงต่ำกว่ากระดาษทันที StoreHub “Low Stock Alert” ตัดจุดเสี่ยงนี้ด้วย Data จากยอดขายวันต่อวัน

7 เคล็ด(ไม่)ลับ สูตรคำนวณร้านเสื้อผ้าแฟชั่น เพิ่มกำไรทันใจ - คำนวณต้นทุนต่อชิ้นแบบละเอียด

คำนวณต้นทุนต่อชิ้นแบบละเอียด

ตัวอย่าง เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์ 300 ตัว:

รายการค่าใช้จ่าย (บาท)
ผ้า & กระดุม15,000
ค่าแรงโรงงาน9,000
แพ็กเกจ & ถ่ายภาพ4,500
ขนส่งเข้าโกดัง1,500
รวม30,000

ต้นทุน/ชิ้น = 30,000 ÷ 300 = 100 บาท

POS จะดึงเลขนี้เชื่อมไปยังทุกช่องทางขาย ทั้งหน้าร้าน & Shopee แบบอัตโนมัติ

มาร์จิ้นยืดหยุ่นเพื่อกำไรจริง

เพื่อครอบคลุมโปรโมชั่นปลายซีซัน ร้านแฟชั่นไทยควรกำหนด Gross Margin ไว้ 55–65 %. ใช้สูตร:


ราคาขาย = ต้นทุน ÷ (1 – เป้ามาร์จิ้น)
  

ต้นทุน 100 บาท × เป้ามาร์จิ้น 60% → ราคาขาย ≈ 250 บาท.

แต่การลดราคาเกิน 25 % ภายใน 8 สัปดาห์แรกทำให้กำไรต่อ SKU หายเฉลี่ย 12 % ตามรายงาน Toolio

การใช้ค่า Inventory Turnover

สูตรคลาสสิก: Turnover = COGS ÷ Average Inventory
แฟชั่นที่หมุนได้เกิน 8 รอบถือว่าดีตามข้อมูลสถิติตลาดจาก Opensend

Aging Report อ่านของเก่าให้ออก

แบ่งอายุสต๊อกเป็น 0-30 วัน / 31-60 / 61-90 / > 90 วัน
จากนั้นตีมูลค่าทุนค้างในช่อง > 90 วัน ถ้าเกิน 10 % ของทุนรวมควรถกทีมทำ Bundle หรือ Flash Sale ทันที
ระบบ StoreHub สามารถส่งออก CSV Aging ดิบพร้อมกราฟวงกลมราย SKU

สูตร Markdown และผลกระทบ

Markdown % = (ราคาเดิม – ราคาลด) ÷ ราคาเดิม × 100
Impact Margin = มาร์จิ้นเดิม – มาร์จิ้นหลังลด

ตัวอย่าง: ต้นทุน 80 บ. ราคาเดิม 200 บ. มาร์จิ้น 60 % > ลด 30 % → ราคาใหม่ 140 บ. มาร์จิ้นเหลือ 43 % ทันที

7 เคล็ด(ไม่)ลับ สูตรคำนวณร้านเสื้อผ้าแฟชั่น เพิ่มกำไรทันใจ - จุดคุ้มทุนของคอลเลกชันใหม่

จุดคุ้มทุนของคอลเลกชันใหม่

สูตร Break-Even Units = ค่าใช้จ่ายคอลเลกชัน ÷ (ราคาขาย – ต้นทุน)

กำไรรั่วเพราะส่วนลด—อุดให้ทัน

ดึง “Discount Log” จาก StoreHub กรองตามพนักงานแล้วคำนวณ

%Discount ÷ Net Sales

ถ้าเกิน 10 % ให้รีบปรับ Permission จำกัดส่วนลดสูงสุดต่อบิล หยุดเลือดออกก่อนงบเดือนนี้ปิด

งบพนักงานหน้าร้าน

งบพนักงานควร ≤ 30 % ของยอดขายสุทธิ สูตร:

textCopyEdit%Payroll = (เงินเดือน + Incentive) ÷ ยอดขาย × 100

KPI บน POS ที่ควรดู

  • ATV (ค่าเฉลี่ยต่อบิล)
  • UPT (จำนวนชิ้นต่อบิล)
  • GMROI แฟชั่นเฉลี่ย ≈ 2.5 เท่า Toolio
    รายงานเหล่านี้ฝังในแดชบอร์ด StoreHub ไม่ต้องสร้างชีตเอง

ใช้ Data ทำนายเทรนด์ล่วงหน้า

Smart Insights ของ StoreHub จับ SKU ขายดี 30 วันล่าสุดแล้วแนะนำสี/ไซส์ที่จะหมดก่อน
ลดโอกาส out-of-stock ที่ทำให้ลูกค้าหายกว่า 24 %

บทสรุป: POS เปลี่ยนเกมร้านเสื้อผ้า

ตัวเลขทั้งหมดในบทความนี้พิสูจน์ว่า “การคาดเดา” ไม่เคยชนะตลาดแฟชั่นที่หมุนเร็ว — แต่เมื่อเปิด StoreHub POS คุณจะเห็นต้นทุน มาร์จิ้น และสต๊อก สดๆ เรียลไทม์ ตัดสินใจเติมของ หรือ ปล่อยโปรได้ก่อนเทรนด์จะหมด ช่วยพลิกทุกชุดในราวให้สร้างกระแสเงินสดได้ตั้งแต่ล็อตต่อไป

จองเดโมฟรีกับทีม StoreHub วันนี้

จัดการร้านค้าครบจบในที่เดียวด้วย StoreHub POS ช่วยจัดการสต็อกสินค้าและพนักงานได้ง่ายๆ

คำถามที่พบบ่อย

StoreHub POS ต่างจากเครื่องคิดเงินธรรมดาอย่างไร?

นอกจากจุดขาย StoreHub ยังรวมการรับชำระ สต๊อก รายงานกำไร กำหนด Floor Price และซิงก์ออนไลน์ในระบบเดียว ลดซอฟต์แวร์ซ้ำซ้อนและเวลาเก็บเงินสิ้นวันลงมากกว่า 50 %.

ย้ายสต๊อกจาก Excel เข้า StoreHub ลำบากไหม?

ไม่ลำบาก — ดาวน์โหลดไฟล์เทมเพลต CSV เติมข้อมูล SKU แล้วอัปโหลดครั้งเดียว สินค้า บาร์โค้ด และ COGS จะถูกสร้างอัตโนมัติ.

ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้หรือไม่?

ทำได้ StoreHub รองรับใบกำกับภาษี/ใบเสร็จตามมาตรฐานกรมสรรพากร ส่งออก PDF หรือพิมพ์ทันทีจากเครื่อง POS.

ขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ สต๊อกจะซิงก์กันอย่างไร?

ระบบตัดสต๊อกแบบเรียลไทม์ เมื่อขายผ่าน POS, Shopee, Lazada หรือ Instagram ร้านจึงไม่เกิดโอเวอร์เซล ลดปัญหายกเลิกคำสั่งซื้อ.

ค่าใช้จ่าย StoreHub POS ประมาณเท่าไร?

แพ็กเกจเริ่มต้นเพียงหลักพันบาท/เดือน รวมซอฟต์แวร์ คลาวด์สำรอง และทีมซัพพอร์ตทุกวัน — ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง.

Share this Post

Hey there! Please enter your store name.

.storehubhq.com