ส่งต่อสูตรขายดี! เจาะเช็คลิสต์โปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์

หลังเจอพิษ COVID-19 ใคร ๆ ก็หันมาขายอาหารออนไลน์กันหมด แล้วจะทำยังไงให้ร้านอาหารขายดีและโดนใจลูกค้าในยุค New Normal นี้ ?

ง่าย ๆ เลย !

คุณต้องมีระบบ POS ที่เป็นระบบจัดการร้านพร้อมระบบหลังบ้านในตัว และเลือกเข้าร่วมระบบส่งอาหาร Food Delivery ที่ค่าดำเนินการไม่แพง อย่าง Beep Delivery ฟีเจอร์ใหม่ใน StoreHub POS ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีของร้านอาหารในยุคที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายนี้ 

และที่สำคัญ เมื่อเข้าร่วมหรือเปิดใช้งานฟีเจอร์ส่งอาหารเดลิเวอรี่แล้ว คุณต้องรู้วิธีโปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์และเข้าถึงลูกค้าในโลกโซเชียลด้วย วันนี้เราจึงมาส่งต่อสูตรขายดีร้านอาหารสำหรับร้านที่มี Food Delivery และหากคุณคือผู้ประกอบการที่ไม่รู้จะเริ่มโปรโมทยังไง มาดูเช็คลิสต์ที่เรานำมาฝากพร้อมกันเลย !

1. เริ่มต้นด้วยการเข้าอบรมกับบริษัท Food Delivery

ภาพจาก Unsplash

แน่นอนว่าเมื่อสมัครใช้งานฟีเจอร์ Food Delivery หรือเลือกเข้าร่วมแพลตฟอร์มส่งอาหารไหนแล้ว คุณก็ต้องเริ่มต้นเรียนรู้กระบวนการและหลักการทำงานของแต่ละแพลตฟอร์มให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ โดยขั้นตอนที่จะช่วยให้รู้จักกับช่องทางการสั่งอาหารออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ก็คือ “การเข้าอบรม” หรือ “เทรนนิ่ง (Training)” 

แนะนำให้เข้าร่วมทุกเทรนนิ่งที่ทางบริษัทหรือพาร์ทเนอร์ส่งอาหารจัดเตรียมไว้ เช่น

✅ เข้าอบรมการใช้งานเบื้องต้นระบบ POS ในกรณีที่เลือกใช้ระบบ Food Delivery ที่มาพร้อม POS ระบบการจัดการร้านและระบบหลังบ้าน

✅ เข้าอบรมการใช้งานเบื้องต้นฟีเจอร์ Food Delivery ข้อนี้จะช่วยให้คุณรู้จักแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น

✅ เข้าร่วมอบรมการตั้งค่าเบื้องต้นฟีเจอร์ Food Delivery ทำความรู้จักเว็บสั่งอาหารออนไลน์กันแล้ว คราวนี้เรียนรู้ขั้นตอนการติดตั้งฟีเจอร์และระบบ

✅ เข้าร่วมอบรมวิธีการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย ข้อนี้ขอบอกเลยว่าสำคัญมาก ๆ สำหรับร้านอาหาร เพราะแม้คุณจะเข้าร่วมแพลตฟอร์มเด็ดหรือใช้ฟีเจอร์ดัง แต่หากไม่รู้วิธีทำการตลาดก็คงจะจายได้ยาก

อย่างที่สโตร์ฮับก็มีอบรมการใช้งานฟีเจอร์ Beep Delivery ที่เป็นฟีเจอร์ส่งอาหารเดลิเวอรี่ให้กับลูกค้าทุกคน โดยเราจัดอบรมในรูปแบบของออนไลน์เทรนนิ่ง (Online Training) เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจการใช้งาน สร้างรายได้จากฟีเจอร์ของเราอย่างเต็มประสิทธิภาพ และขายดียิ่งขึ้นในยุค New Normal นี้

2. เตรียมพร้อมร้านค้าของคุณในแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์สั่งอาหารออนไลน์

เข้าเทรนนิ่งเพื่อทำความรู้จักกับฟีเจอร์หรือแพลตฟอร์ม Food Delivery กันแล้ว คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมพร้อมหน้าร้านอาหารออนไลน์กันแล้ว ซึ่งเช็คลิสต์ในข้อนี้ก็คือ

✅ ตั้งค่าร้านค้า Food Delivery ในระบบหลังบ้านของเว็บสั่งอาหารออนไลน์

✅ เพิ่มโลโก้และชื่อร้าน ตรวจสอบให้ครบเพื่อให้ลูกค้าหาเจอและจดจำได้

✅ ตั้งค่าอัตราและรัศมีการจัดส่งสินค้า คิดค่าขนส่งตามจริง หรือจะช่วยลูกค้าจ่ายก็ได้ ค่าส่งอาหารจะได้ไม่แพงเกินไปสำหรับลูกค้า

✅ เพิ่มข้อมูลบัญชีธนาคาร เพื่อให้ง่ายต่อการจ่ายเงิน

✅ เพิ่มสถานที่ตั้งของร้านและข้อมูลติดต่อสำหรับร้านค้าและทุกสาขาที่จะเปิดการใช้งาน Food Delivery อย่าลืมใส่เบอร์โทรร้านด้วย

✅ ตั้งค่าให้ลูกค้าสามารถ “สั่งเดลิเวอรี่” และ “รับสินค้าที่ร้าน” เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า

✅ ให้รางวัลลูกค้าของคุณด้วย Cashback มอบเครดิตเงินคืนเพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาสั่งอาหารที่ร้านอีก

✅ ตั้งค่ายอดการสั่งซื้อขั้นต่ำ เพื่อส่วนลดค่าจัดส่งและดึงดูดให้ลูกค้าซื้อมากขึ้น

✅ ตั้งค่าโปรโมชั่น เพื่อให้ดูคุ้มค่ายิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าและสร้างแรงจูงใจในการสั่งอาหาร

✅ แจ้งลูกค้าผ่าน SMS ให้ลูกค้ารู้ว่าคุณมีหน้าร้านออนไลน์ อย่าลืมใส่ลิงค์หรือเว็บไซต์สั่งอาหารของร้านด้วย ลูกค้าจะได้คลิกดูเมนูและสั่งซื้อได้ทันที

✅ ตั้งค่าแจ้งเตือนคำสั่งซื้อใหม่ บน WhatsApp เพื่อรับการแจ้งเตือนแบบ Real Time เพื่อลดปัญหาการรับออร์เดอร์และจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หัวใจสำคัญของข้อนี้ก็คือ ความสะดวกสบายสำหรับร้านและลูกค้าร้านอาหารเอง ยิ่งคุณตั้งค่าเบื้องต้นของเว็บสั่งอาหารออนไลน์ได้ดีเท่าไหร่ คุณก็จะจัดการออร์เดอร์สั่งอาหารออนไลน์และขายดีมากขึ้นเท่านั้น

3. รังสรรค์เมนูอาหารออนไลน์สำหรับ Food Delivery ให้พร้อม

ภาพจาก Wine Connection Thailand

ตั้งค่าเริ่มต้นเสร็จแล้ว คราวนี้มาลุยกันต่อกับขั้นตอนการทำให้เมนูอาหารบนร้านออนไลน์ของคุณน่าทานและน่าสั่งยิ่งขึ้นได้เลย

✅ เพิ่มสินค้าบนเมนูอาหารออนไลน์ ใส่เมนูบนเว็บสั่งอาหารออนไลน์ให้ครบ อย่าลืมใส่ภาพสวย ๆ ภาพคมชัด ถ้าจะให้ดีต้องให้เห็นเมนูเน้น ๆ กันไปเลย

✅ สร้างคอลเล็คชั่น อย่างน้อย 5 คอลเล็คชั่น ให้ลูกค้าเลือกดูเมนูบนร้านอาหารออนไลน์และเลือกเมนูที่จะทานได้ง่ายขึ้น

✅ สร้างคอลเล็คชั่น “ต้องลอง” (Must Try!) ลูกค้าบางคนหิว แต่ไม่รู้จะสั่งอะไร ลองใส่เมนู “ต้องลอง” เพื่อเป็นแนวทางให้ลูกค้า

✅ เพิ่มความโดดเด่นให้สินค้าด้วยป้ายกำกับ “สินค้าขายดี” หรือ “Bestseller” ลูกค้าบางคนไม่เคยสั่งอาหารออนไลน์หรือ Food Delivery จากร้านของคุณ ซึ่งเมนูขายดีที่คุณแสดงบนเว็บสั่งอาหารออนไลน์นี่แหละที่จะช่วยโน้มน้าวลูกค้าได้เป็นอย่างดี

รูปภาพของแต่ละเมนูและคอลเล็คชั่นต่าง ๆ ถือว่าสำคัญมากสำหรับเว็บ Food Delivery ถ้าคุณอยากโปรโมทร้านอาหารออนไลน์ หรือพรีเซ็นต์ตัวตนของร้านผ่านอาหารเมนูต่าง ๆ ก็ต้องใช้รูปที่สวยและดูดีที่สุด เมนูของคุณจึงจะเตะตาลูกค้าและขายดี อย่าลืมว่าคนเรามักจะทานอาหารด้วยรูป นั่นก็เพราะลูกค้ามักจะเห็นภาพก่อนได้ลิ้มลองรสชาติอาหาร ยิ่งถ้าเป็นร้านที่ลูกค้าไม่เคยลองมาก่อนแล้ว บอกเลยว่ารูปภาพดีมีชัยไปว่าครึ่งแน่นอน

4. เข้าถึงลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นด้วยเว็บสั่งอาหารออนไลน์ของร้านคุณ

พอเข้าอบรมและตั้งค่าเว็บร้านกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการโปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์ของคุณแบบจริง ๆ จัง ๆ เสียที !

บอกเลยว่า ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ร้านอาหารไม่สามารถรอให้ลูกค้าเข้าหาฝ่ายเดียวอีกต่อไป เพราะร้านอาหารจะต้องรู้ว่าฐานลูกค้าของตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วก็เข้าถึงพวกเขาด้วยอาหารแสนอร่อยจากร้านซะ ซึ่งร้านที่ใช้ระบบ POS จัดการร้านอย่างของสโตร์ฮับก็จะได้เปรียบตรงนี้ เพราะมีระบบ CRM ที่จัดเก็บข้อมูลลูกค้าได้ครบ โดยเฉพาะเบอร์โทร และเช็คลิสต์โปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์ในข้อนี้ ก็คือ

✅ บอกให้ลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย ร้านอาหารแต่ละร้านมักจะมีฐานลูกค้าและผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, IG และ LINE อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าคุณมีช่องทางเดลิเวอรี่หรือ เว็บสั่งอาหารออนไลน์ บอกให้ลูกค้ารู้ได้เลย!

✅ ระบุให้ชัดว่าลูกค้าสามารถสั่งอาหารกับทางร้านได้โดยตรง เขียนแคปชั่นด้วยภาษาพูดที่ไม่ทางการจนเกินไป

✅ เพิ่มลิงค์เว็บสั่งอาหารออนไลน์บนหน้าโปรไฟล์ออนไลน์ของร้าน ใส่ให้ครบทั้ง Facebook, IG และ Google My Business

✅ กระตุ้นลูกค้าให้สั่งซื้อจากคุณโดยตรง หากมีช่องทางสั่งอาหารออนไลน์ใหม่ที่ประหยัดกว่า ลองให้ส่วนลดกับลูกค้าที่ซื้อบนแอพอื่น เพื่อมาซื้อโดยตรงบนเว็บสั่งอาหารออนไลน์ของคุณดู 

ข้อนี้ทางร้านอาหารจะต้องแอ็คทีฟและโปรโมทเว็บสั่งอาหารด้วยตนเอง อย่างลูกค้าสโตร์ฮับที่เปิดใช้งานฟีเจอร์ Beep Delivery จะมีเว็บสั่งอาหารออนไลน์เป็นของตนเอง แล้วก็จะได้ไกด์ไลน์ในการโปรโมทเว็บบนช่องทางต่าง ๆ ให้ร้านอาหารเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มโอกาสขายดีได้ง่ายขึ้น

5. ไกด์ไลน์การโพสต์และโปรโมทร้านที่ดีที่สุดสำหรับ Facebook, IG, LINE และ Google My Business

สำหรับเจ้าของร้านอาหารที่ไม่เคยทำ Food Delivery ยังไม่รู้แนวทาการโพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือไม่เคยอัพเดตข้อมูลร้านในโลกออนไลน์มาก่อน บอกเลยว่าขั้นตอนนี้สำคัญมาก ซึ่งเช็คลิสต์ที่เรานำมาฝาก มีดังนี้ :-

✅ โพสต์สินค้าของคุณลงบนหน้าเพจ ขั้นต่ำ 3 โพสต์/สัปดาห์ หากเพิ่งเริ่มสร้างเพจและไอจี แนะนำให้เริ่มที่โพสต์ทุกวัน

✅ โพสต์สินค้าของคุณลงบน Story ทุก 24 ชั่วโมง 1 วัน โพสต์ได้มากกว่า 1 ครั้ง !

✅ ใส่แฮชแท็ก # ที่เกี่ยวข้อง เน้นคีย์เวิร์ดและ #hashtag ที่คนนิยมใช้ ลงในโพสต์ของคุณ อย่าลืม Check-in ร้านคุณทุกครั้งที่โพสต์ เพื่อช่วยสร้างตัวตนและช่วยให้ลูกค้าหาคุณเจอบนโลกออนไลน์

✅ ไม่ใส่ลิงค์ช่องทางการสั่งเดลิเวอรี่หลายช่องทาง เลือกเพียงหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกค้าสับสน

✅ หากมีช่องทางการติดต่อหลายช่องทางสามารถทำได้ใน Footage ของโพสต์ แปะลิงค์ไว้ส่วนล่างของโพสต์ และระบุให้ชัดเจนว่าแต่ละลิงค์จะพาลูกค้าไปที่ไหน เช่น

• สั่งเดลิเวอรี่: abc.beepit.com
• จองโต๊ะมาทานในร้าน: ใส่เป็นเบอร์โทรหรือช่องทางที่สะดวกของร้าน
• ติดตามเราบน instagram: ชื่อไอจีร้าน

6. Bonus Tips! เทคนิคเพิ่มเติมในโปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์ของร้าน

ภาพจาก Unsplash

ข้อนี้เราจะพามาดูเช็คลิสต์โปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์ให้ขายดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเช็คลิสต์ที่ว่านี้ก็คือ 

✅ เคลม Google My Business และอัพเดตเนื้อหาบนโปรไฟล์ร้าน

✅ เพิ่มสินค้า/บริการลงบน Google My Business และใส่ลิงค์ให้ลูกค้าสั่งซื้อได้ทันที แนะนำให้ใช้ลิงค์สำหรับสั่งอาหาร

✅ เพิ่มข้อมูลบน Google My Business โดยการใส่ Category และ Tag ให้ถูกต้อง

✅ ใส่คีย์เวิร์ดร้านค้าและอาหารลงใน Facebook และ IG โปรไฟล์ เพื่อเพิ่มการค้นหา

✅ ตั้งค่า Auto Message ใน Facebook และ LINE สำหรับคนที่ต้องการสั่งอาหาร ให้กดสั่งซื้อผ่านลิงค์เว็บได้เลย เช่น xyz.beepit.com

✅ Broadcast เมสเสจบน LINE เพื่อแจ้งลูกค้า

✅ ทำ Rich Menu บน LINE และใส่ลิงค์เพื่อให้ลูกค้าสั่งอาหารง่ายขึ้น

✅ โพสต์บนไทม์ไลน์ LINE อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีตัวตนในสายตาลูกค้า

เป็นยังไงบ้างกับสูตรขายดีของเรา ยังไงลองนำไปปรับใช้สำหรับการโปรโมทเว็บสั่งอาหารออนไลน์ของคุณดู รับรองว่าร้านจะขายดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน แล้วร้านอาหารยุค New Normal ของคุณจะเป็นร้านในดวงใจของลูกค้าได้ง่าย ๆ แม้จะเป็นการสั่งอาหารออนไลน์ก็ตาม