WhatsApp our business consultants: +601117227604

กระตุ้นยอดขายให้พุ่งส่งท้ายปีด้วยกลยุทธ์จัดโปรโมชั่นและ Beep Cashback

Beep Cashback - Loyalty Program สโตร์ฮับ สแกนเพื่อรับเงินคืน

โปรโมชั่น คือกลยุทธ์เรียกยอดขายเข้าร้านที่ได้ผลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีอย่าง 11.11, 12.12 หรือคริสต์มาสที่เป็นช่วงเวลาสุดหรรษาของลูกค้าสายกินและสายช้อป ทั้งยังถือเป็นช่วงเวลาแห่งการกอบโกยของร้านค้าและธุรกิจน้อยใหญ่

นั่นก็เพราะร้านต่าง ๆ มักจัดโปรโมชั่นกันแบบฮาร์ดคอร์ เรียกว่า ลด แลก แจก แถมกันแบบกระหน่ำ ! ทำให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจและอดที่จะช้อปหรือออกไปทานอาหารนอกบ้านไม่ไหว แล้วธุรกิจร้านค้าก็สร้างรายได้ผ่านโปรโมชั่นส่วนลดในช่วงนี้ได้อย่างมากมายมหาศาล ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าและร้านค้าต่างก็รอคอย

แล้วในฐานะเจ้าของร้าน/ธุรกิจขนาดเล็ก คุณวางแผนจัดโปรโมชั่นไว้เอาใจลูกค้าหรือยัง และคุณพร้อมที่จะกระตุ้นยอดขายให้ปังส่งท้ายปีมากแค่ไหน ?

ขอบอกว่าวันนี้เรามีวิธีจัดโปรโมชั่นสุดคลาสสิคพร้อมกลยุทธ์แนวใหม่อย่าง Beep Cashback ของสโตร์ฮับมานำเสนอ รับรองว่าน่าสนใจและช่วยเพิ่มยอดขายร้านคุณให้พุ่งกระฉูดจนหยุดไม่อยู่แน่นอน !

วิธีจัดโปรโมชั่นสำหรับร้านค้าปลีกขนาดเล็ก

ผู้หญิงกำลังถือถุงช้อปปิ้งและเพลิดเพลินกับโปรโมชั่น

ภาพจาก Freepik

ถึงเวลาแล้วที่เจ้าของร้านค้าปลีกอย่างคุณจะต้องเตรียมงัดโปรโมชั่นเด็ดมาเอาใจลูกค้าและทำยอดขายแซงหน้าคู่แข่งให้มีตัวเลขสวย ๆ ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งวิธีจัดโปรโมชั่นที่เราอยากแนะนำนั้นก็ได้คือ

1. โปรโมชั่น 1 แถม 1

เหนือกว่าส่วนลด 50%, 80% หรือ 90% ก็คือสินค้าฟรีนี่แหละ ! เพราะใคร ๆ ก็ชอบของฟรีกันทั้งนั้น เพียงแค่คุณติดป้ายซื้อ 1 แถม 1 หรือ ซื้อ 1 ฟรี 1 ก็ทำให้ลูกค้าใจสั่นและอดซื้อสินค้าไม่ได้แล้ว เพราะคำว่า ฟรี จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความประหยัด ความคุ้มค่า และกระตุ้นให้อยากซื้อมากยิ่งขึ้น แล้วคุณก็รู้ดีว่าคำ ๆ นี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อและความพร้อมในการเปย์ของพวกเขามากแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้จัดโปรโมชั่นนี้นานหรือบ่อยเกินไป เพราะลูกค้าอาจจะชินและไม่ยอมซื้อสินค้าของร้านคุณในวันที่ไม่มีโปรโมชั่นก็เป็นได้ แล้วยอดขายร้านก็จะดิ่งฮวบจนน่าตกใจ ดังนั้นให้จำกัดจำนวนสินค้าที่ร่วมรายการหรือระยะเวลาของโปรโมชั่น และถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีก็ลองจำกัดชั่วโมงดูก่อน 

2. โปรโมชั่นสะสมแต้มคูณ 2

หากร้านของคุณมีระบบสมาชิกหรือ Loyalty Program แบบสะสมแต้มอยู่แล้ว ก็สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้นได้โดยเพิ่มคะแนนเป็นสองเท่า เพื่อให้ลูกค้าสะสมคะแนนแลกรับของรางวัลหรือส่วนลดจากทางร้าน เช่น รับคะแนนสองเท่าเมื่อซื้อสินค้าทุกวันอังคารและมียอดใช้จ่ายครบ 200 บาท รับของสมนาคุณจากทางร้านเมื่อมีคะแนนสะสมครบ 300 แต้ม หรือรับส่วนลด 10% เมื่อสะสมคะแนนครบ 300 แต้ม เป็นต้น

อย่าลืมมอบของรางวัลที่น่าตื่นตาตื่นใจและตรงใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วย เช่น หากคุณมีร้านขายของเล่นเด็ก ก็อาจจะแจกสีไม้ ดินสอ หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก หรือถ้าคุณมีร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ก็อาจจะแจกเป็นส่วนลดสินค้าแทน

 3. โปรโมชั่นแลกซื้อ

การจัดโปรโมชั่นแลกซื้อหรือแจกสินค้าฟรีเมื่อลูกค้ามียอดซื้อตามกำหนดเป็นกลยุทธ์ที่เจ้าของร้านต่างก็รู้กันดี แต่คำถามคือ คุณเตรียมจัดโปรโมชั่นนี้ช่วงสิ้นปีหรือยัง ?

ลองเริ่มจาก ซื้อครบ XXX บาท รับสินค้าฟรี หรือ แลกซื้อสินค้าในราคา XX บาท เมื่อมียอดซื้อ XXX บาทขึ้นไป ส่วนเคล็ดลับในการจัดโปรโมชั่นนี้ให้ประสบความสำเร็จก็คือ คุณต้องเลือกสินค้าแลกซื้อให้น่าสนใจและตั้งราคาแลกซื้อที่น่าดึงดูดด้วย เช่น หากคุณมีร้านขายรองเท้าหนังก็อาจจะจัดโปร ซื้อสินค้าครบ 3,500 บาท แลกซื้อรองเท้าคู่ที่ 2 ในราคา 50% (ครึ่งราคา)

หรือถ้าคุณมีร้านค้าปลีกประเภทอื่นก็สามารถนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ที่ร้านได้ รับรองว่ายอดขายของร้านกระเตื้องขึ้นแน่นอน

สินค้าภายในร้านพร้อมโปรโมชั่น

ภาพจาก Freepik

4. โปรโมชั่นสินค้าราคาเดียว

รู้ไหมว่าวิธีจัดโปรโมชั่นสินค้าราคาเดียวนั้นโดนใจกลุ่มลูกค้าสมาชิกและลูกค้าประจำมากที่สุด เพราะฉะนั้นลองนำสินค้าแต่ละชนิดมาจัดโปรโมชั่นและตั้งขายราคาเดียวดู แต่จงจำไว้ว่าราคาสินค้าจะต้องถูกกว่าปกติเท่านั้นลูกค้าถึงจะสนใจ เช่น หากคุณมีร้านขายเสื้อผ้าก็ลองตั้งราคา 200 บาททุกตัว หรือเป็นสินค้าของใช้อย่างสบู่หรือยาสีฟัน ก็ลองจัดทุกอย่าง 20 บาทดู รับรองว่าลูกค้าจะซื้อตุนไว้เยอะเลยล่ะ

อย่างไรก็ตาม คุณควรจัดโปรนี้แค่บางช่วงเวลาของวันเท่านั้น เช่น หลังบ่าย 2 และหลัง 3 ทุ่ม หรือจะจำกัดจำนวนสินค้าในการจัดโปรก็ได้ เพราะถ้าหากคุณขายสินค้าราคาเดียวแบบไม่มีลิมิต ก็จะส่งผลต่อยอดขายในวันปกติได้ เห็นของในร้านหมดเร็ว ก็ไม่ได้แปลว่ายอดขายจะพุ่งสูงตามไปด้วย ดังนั้นควรระวังในการเลือกสินค้าและตั้งราคาด้วย

5. โปรโมชั่นคืนเงิน (Beep Cashback) สร้างยอดขายจากลูกค้าขาประจำ

เชื่อสิว่าลูกค้าทุกคนอยากได้อะไรเป็นการตอบแทนเมื่อซื้อสินค้า และจากข่าวของ Bangkok Post ก็พบว่า หลังจากที่ Shopback (เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นคืนเงินสำหรับลูกค้า) เปิดตัวในไทยเมื่อเดือน ก.ค. ปี 2017 นั้น ก็มียอดธุรกรรมการขายกว่า 100 ล้านบาทและมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ 2 เดือน ! น่าสนใจใช่ไหมล่ะ ?

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมร้านค้าออนไลน์ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ธนาคาร หรือ ร้านค้า ต่างก็หันมาใช้ Loyalty Program คืนเงินให้กับลูกค้า เพราะกลยุทธ์นี้สามารถมัดใจลูกค้าได้อย่างแท้จริง แล้วก็ยังช่วยเปลี่ยนลูกค้าหน้าใหม่ ๆ ให้กลายเป็นลูกค้าที่คุณคุ้นเคย ดังนั้นในฐานะเจ้าของร้านค้าปลีกขนาดเล็กแล้ว ทำไมคุณไม่เริ่มหันมาใช้โปรแกรมคืนเงินเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านของคุณบ่อยขึ้นล่ะ ?

ที่สโตร์ฮับของเรามี Loyalty Program ใหม่สำหรับร้านค้าปลีกขนาดเล็กของคุณ โดยเจ้าโปรแกรมนี้มีชื่อว่า Beep หรือคุณจะเรียกว่า Beep Cashback ก็ได้ เป็นโปรแกรมคืนเงินที่คุณเปิดใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่าน BackOffice ของสโตร์ฮับ แถมคุณยังตั้งค่า % เงินคืนและจำกัดจำนวนครั้งในการรับเงินคืนของลูกค้าเพื่อป้องกันการโกงได้ด้วย

เมื่อเปิดใช้งาน Beep Cashback แล้ว เครื่องพิมพ์ใบเสร็จของร้านก็จะปริ้นต์ QR Code บนใบเสร็จอัตโนมัติ เพียงแค่ลูกค้าสแกนและกรอกเบอร์มือถือ ก็สะสมยอดเงินคืนเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าครั้งต่อไปได้ทันที แล้วร้านคุณก็จะสร้างยอดขายจากลูกค้าสมาชิกกับลูกค้าขาประจำเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด !

วิธีจัดโปรโมชั่นสำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก

การจัดโปรโมชั่นสำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก

ภาพจาก Pixabay

ในส่วนของร้านอาหารขนาดเล็ก คุณก็สามารถจัดโปรโมชั่นมัดใจลูกค้าในช่วงสิ้นปีได้เช่นกัน มาดูดีกว่าว่าโปรโมชั่นแบบไหนจะช่วยให้ร้านคุณมียอดขายถล่มทลายส่งท้ายปีได้

1. โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าสายโซเชียล

เถียงไม่ได้ว่าตอนนี้โซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม หรือ ทวิตเตอร์ มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้ายุคนี้เป็นอย่างมาก และถ้าร้านของคุณยังไม่ใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้ ก็ถือว่าพลาดมาก ! เพราะวิธีนี้จะช่วยให้คุณโปรโมทร้านได้แบบฟรี ๆ ! ยิ่งลูกค้าเห็นเมนูอาหารของคุณบนโซเชียลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่พวกเขาจะมาทานอาหารที่ร้านคุณมากขึ้นเท่านั้น

ลองเสนอส่วนลดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับลูกค้าที่เช็คอิน เช่น รับส่วนลด 5% เมื่อถ่ายรูปอาหารและเช็คอินที่ร้าน หรือจะมอบส่วนลด 10% เมนูอาหารและเครื่องดื่มสำหรับลูกค้าที่แชร์โพสต์ของร้านและแท็กเพื่อนก็ได้ รับรองว่าร้านอาหารของคุณจะมีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสายแน่นอน !

นอกจากนี้การจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายผ่านโซเชียลก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ดังนั้นถึงเวลาที่คุณต้องปรับใช้กลยุทธ์นี้แล้วล่ะ

2. โปรโมชั่นลดราคาในช่วงที่ลูกค้าน้อย

แม้ว่าร้านคุณจะมีเมนูซิกเนเจอร์แสนอร่อยพร้อมการบริการที่น่าประทับใจ ก็ต้องมีช่วงที่ลูกค้าเข้าร้านน้อยบ้าง (ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้เองหรือเช็คข้อมูลที่แม่นยำได้จากระบบขายหน้าร้าน POS) แล้วคุณก็ต้องจ่ายค่าพนักงาน ค่าจัดการร้าน และค่าน้ำค่าไฟเท่าเดิมในช่วงเวลาดังกล่าว ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าหากคุณจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในช่วงที่ร้านเงียบนี้ ?

ดูว่าร้านของคุณคนน้อยในช่วงไหนของวันธรรมดาและเสาร์-อาทิตย์ เป็นช่วง บ่าย 2 – 4 โมงเย็น หรือช่วงไหน ? เมื่อรู้แล้วก็ลองเสนอส่วนลดในช่วงนั้น อาจจะเป็น 10%, 15% หรือ 20% ก็ได้ โปรโมชั่นแบบนี้จะดึงดูดลูกค้าให้มาทานอาหารในช่วงเวลาที่คนน้อยได้ดียิ่งขึ้น

จัดโปรโมชั่นอาหาร

ภาพจาก Pixabay

 3. โปรโมชั่นลดราคาเซ็ตอาหารกลางวัน/ดินเนอร์

เมื่อคุณใช้ระบบ POS ที่ร้านอาหาร คุณจะรู้ว่าเมนูไหนขายดีหรือขายไม่ดี และคุณก็สามารถนำข้อมูลนี้ไปวางแผนโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายได้จริง ลองจับคู่อาหารและเครื่องดื่มที่ขายไม่ค่อยดีเข้าเซ็ตกัน อาจจะจัดเป็นเซ็ตอาหารกลางวันหรือดินเนอร์เซ็ตก็ได้ จากนั้นก็ตั้งราคาถูกกว่าปกติสัก 10-20% เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความคุ้มค่า เท่านี้ก็สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าสั่งเซ็ตที่ว่าได้มากขึ้นแล้ว

เช่น ถ้าเมนูข้าวผัดปูกับสตรอเบอร์รี่สมูธตี้ขายไม่ค่อยดี ก็จับเข้าเซ็ต ซึ่งจากราคาเต็ม 150 บาท ก็จะลดเหลือ 120 บาท อย่าลืมแสดงราคาเต็มไว้บนเมนูด้วยล่ะ ลูกค้าจะได้เห็นภาพชัดและตัดสินใจสั่งเซ็ตที่คุณจัดโปรโมชั่นได้เร็วขึ้น

4. โปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าสมาชิก

จากการศึกษาของ Smallbizgenius พบว่า 65% ของรายได้ของบริษัทมาจากลูกค้าที่มีอยู่ และค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกค้าปัจจุบันก็ถูกกว่าค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าใหม่ ๆ หมายความว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มสำคัญของร้านอาหารคุณ และยิ่งคุณมีลูกค้าประจำหรือลูกค้าสมาชิกมากเท่าไหร่ โอกาสในการขายก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้นอย่าละเลยลูกค้ากลุ่มนี้ ลองจัดโปรโมชั่นและมอบสิทธิพิเศษให้กับพวกเขา อาจจะมอบเป็นส่วนลด เพิ่มคะแนนสะสม 2 เท่า หรือให้เครื่องดื่ม/ของหวานฟรี เช่น รับส่วนลด 10% เมื่อสั่งอาหารครบ 500 บาท สะสมแต้มครบ 200 คะแนน รับฟรีเครื่องดื่มราคาไม่เกิน 100 บาท และรับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้วเมื่อซื้อครบ 10 แก้ว เป็นต้น เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาทานอาหารที่ร้านบ่อย ๆ

 5. โปรโมชั่นคืนเงิน (Beep Cashback) เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นลูกค้าสมาชิก

Beep Cashback ของสโตร์ฮับไม่เพียงแต่ช่วยสร้างลูกค้าสมาชิกร้านค้าปลีกได้เท่านั้น แต่เจ้าของร้านอาหารยังเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นลูกค้าขาประจำได้ผ่าน Loyalty Program นี้ โดยหลักการใช้งาน Beep ในร้านอาหารก็ไม่ต่างกับร้านค้าปลีกสักเท่าไหร่ แถมยังช่วยสร้างฐานลูกค้าขาประจำให้กว้างขึ้นด้วย

เพราะเมื่อร้านอาหารของคุณมอบเงินคืนในทุก ๆ บิลการสั่งอาหารแล้ว ลูกค้าก็จะใช้ยอดนั้นเป็นส่วนลดจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มในครั้งต่อไปได้ แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้พวกเขาไม่กลับมาทานอาหารที่ร้านของคุณอีกล่ะจริงไหม ?

Beep Cashback - Loyalty Program แบบคืนเงินของสโตร์ฮับ

สรุป

นี่เป็นวิธีจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี (หรือจะจัดโปรโมชั่นช่วงอื่น ๆ ก็ได้ตามเหมาะสม) สำหรับร้านค้าปลีกและร้านอาหารขนาดเล็กที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับร้านของคุณได้ ถ้าอยากมียอดขายพุ่งกระฉูดและมีตัวเลขสวย ๆ ส่งท้ายปี ก็ต้องลองใช้ดู

มีทั้งโปร 1 แถม 1, โปรแลกซื้อสินค้า, โปรลดราคา, โปรคืนเงินสำหรับลูกค้าสมาชิกผ่าน Beep Cashback รวมถึงโปรสำหรับลูกค้าสายโซเชียลที่ชอบชิมและแชร์ด้วย ซึ่งโปรสุดท้ายนี้ลูกค้าของคุณจะช่วยโปรโมทร้านและช่วยประชาสัมพันธ์ให้ร้านคุณเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้วก็อย่าลืมมีโปรห่อของขวัญฟรีให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าเป็นของขวัญด้วยล่ะ เท่านี้คุณก็มัดใจลูกค้าของคุณได้อยู่มัดและมียอดขายทะลุเป้าต้อนรับปีใหม่แล้ว

CTA - ระบบ POS สโตร์ฮับ ระบบจัดการร้านค้าปลีกและร้านอาหาร

Share this Post

Hey there! Please enter your store name.

.storehubhq.com