หากคุณไม่มีงบในการทำการตลาดสำหรับร้านอาหารหรือว่าคาเฟ่ของคุณ ? Social Media คือ แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้คุณเติบโตในโลกออนไลน์ได้ง่าย ๆ
เพราะด้วยแพลตฟอร์มนี้ คุณไม่จำเป็นต้องมีงบในการทำการตลาดเพื่อสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์แม้แต่น้อย และเราขอเตือนว่าอย่ามองข้ามกลุ่มลูกค้าขาประจำ เพราะพวกเขาคือแบรนด์แอมบาสเดอร์ชั้นเยี่ยมของร้านอาหาร/คาเฟ่คุณ !
การให้ความสำคัญกับ Social Media ของร้าน หรือทำร้านของคุณให้ดูดีบนโลกโซเชียลจะกระตุ้นให้ลูกค้าช่วยโปรโมทร้านอาหาร/คาเฟ่ของคุณแบบฟรี ๆ
บางคนอาจจะแชร์โพสต์ของร้าน บางคนอาจจะแท็กเพื่อนหรือครอบครัวในโพสต์ บางคนอาจบอกต่อปากต่อปาก ฯลฯ ซึ่งวิธีนี้เองที่จะทำให้ร้านเติบโตและมีตัวตนโดยไม่ต้องใช้งบการตลาด
ดังนั้นเราจึงจะมาบอกวิธีการสร้างเพจ Facebook ร้านอาหารและ Instagram ในบทความนี้ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเรายังหอบข้อควรทำและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับ Social Media มาฝากผู้ประกอบการร้านอาหาร ให้ได้ไปลองทำตามและสร้างธุรกิจให้เติบโตบนโลกออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น และทั้งหมดที่ว่านี้ ฟรี ! ไม่มีค่าใช้จ่าย !
หัวข้อสำคัญ
วิธีสร้างโปรไฟล์ Facebook และเพจร้านอาหาร
การสร้างโปรไฟล์ Facebook
ถ้าคุณยังไม่มีบัญชีการใช้งาน Facebook สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากดาวน์โหลดแอพ Facebook ในมือถือ หรือหากใช้โน้ตบุ๊คก็ไปที่เว็บไซต์ www.facebook.com ได้เลย
การสร้างเพจ Facebook
หากต้องการสร้างเพจ Facebook ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านเครื่องดื่มเพื่อให้ลูกค้าค้นเจอบนโลกออนไลน์ได้ง่ายขึ้น แค่คลิกที่นี่แล้วทำตามขั้นตอน จากนั้นก็ใส่ข้อมูลเพจร้านโดย
- คลิกที่ “About” หรือ “เกี่ยวกับ” ที่ด้านบนซ้ายของหน้าเพจ
- คลิก “Edit Page Info” หรือ “แก้ไขข้อมูลเพจ”
อย่าลืมใส่ข้อมูลสำคัญในเพจด้วย เช่น
- ข้อมูลการติดต่อ (หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่ ฯลฯ)
- เวลาเปิด-ปิดร้าน
- เว็บไซต์ (ใส่ลิงค์ beepit.com ถ้าเป็นไปได้)
- คลิก “Save Changes” หรือ “บันทึกการเปลี่ยนแปลง” เมื่อใส่ข้อมูลทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
เมื่อสร้างเพจ Facebook ร้านและกรอกข้อมูลเสร็จ ก็ถือว่าคุณได้เปรียบร้านอื่น ๆ ที่ยังไม่มีเพจร้านแล้ว
การสร้างโปรไฟล์ Instagram
เช่นเดียวกันกับ Facebook หากคุณยังไม่มีบัญชีการใช้งานบน Instagram ก็ให้เริ่มจากการสร้างโปรไฟล์บนไอจี
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือไปที่ www.instagram.com หากใช้งานบนคอมพิวเตอร์/โน้ตบุ๊ค
หรือจะลงทะเบียนใช้งานด้วยบัญชี Facebook ที่คุณมีก็ได้
หลังจากสร้างโปรไฟล์ IG ร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมใส่ข้อมูลสำคัญของร้านบน Bio ด้วย เช่น
- ชื่อร้าน
- สินค้า/บริการ
- ข้อมูลการติดต่อ (หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่ ฯลฯ)
- เว็บไซต์
ส่วนวิธีการอัพเดตข้อมูลก็ทำได้เพียงคลิก “แก้ไขโปรไฟล์” (ตามรูปตัวอย่างด้านล่าง)
ถ้าคุณมีลิงค์ beepit.com ก็สามารถใส่ลิงค์ในส่วนของเว็บไซต์ร้านได้เลย เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือสั่งอาหารผ่านลิงค์หน้าไอจีได้เลย
และถ้าต้องการใส่ลิงค์ beepit.com ของร้านบนโปรไฟล์ Google My Business สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่
Social Media: ข้อควรทำและไม่ควรทำสำหรับร้านอาหาร
จบไปแล้วสำหรับการสร้างโปรไฟล์และเพจร้านบน Facebook และ Instagram คราวนี้เรามาพูดถึงเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้ร้านอาหาร/คาเฟ่โพสต์และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกันดีกว่า
ข้อควรทำสำหรับ Social Media
- ใส่รูปโปรไฟล์ ใช้รูปที่ดูดีที่สุด เช่น โลโก้ร้าน ภาพบรรยากาศร้าน หรือใช้รูปที่ดูเป็นทางการเพื่อให้ร้านดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือ ข้อนี้สำคัญมากสำหรับยุคที่มีการแข่งขันในโลกออนไลน์สูงเช่นนี้
- กรอกข้อมูลในส่วนของ Bio เพื่อใส่รายละเอียดธุรกิจในทุกแพลตฟอร์ม Social Media หลายคนอาจจะมองข้ามส่วนนี้ แต่บอกเลยว่าจำเป็นมาก ๆ เพราะส่วนนี้ช่วยให้ลูกค้าร้านอาหาร/คาเฟ่รู้จักร้านคุณมากยิ่งขึ้น ดังนั้นอย่าลืมใส่ความเป็นตัวตนของร้านในข้อความด้วย เพื่อให้ร้านโดนใจลูกค้าและโดดเด่นจากร้านอื่น ๆ
- ใส่ข้อมูลการติดต่อของร้านให้ครบ ให้ลูกค้าติดต่อสอบถามได้ง่าย และวิธีนี้ก็จะเพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
- บอกต่อบริการ Food Delivery หากที่ร้านมีบริการส่งอาหารเดลิเวอรี่อย่าง Beep Delivery ควรแจ้งข่าวดีให้กับลูกค้าได้รู้บน Facebook, Instagram และ LINE ของร้าน ขอบอกว่าขั้นตอนนี้สำคัญสุด ๆ เพราะบางร้านเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้กับสโตร์ฮับแต่ไม่ได้อัพเดตลูกค้า อย่าลืมว่าถ้าลูกค้าไม่รู้ว่าร้านคุณมีบริการ Food Delivery อันไหนบ้าง พวกเขาก็จะไม่สั่งซื้อจากร้านคุณ ถ้าจะให้ดีโพสต์ขั้นตอนการสั่งซื้อเพื่อแนะนำลูกค้าไปเลย
- สุภาพเข้าไว้ หัวใจของงานบริการก็คือ ความสุภาพนอบน้อม ดังนั้นเวลาพูดคุยกับลูกค้าทางแชท โพสต์เฟสบุ๊ค/ไอจี ทางโทรศัพท์ หรือทางไหน ทางร้านควรให้บริการด้วยใจจริงและสุภาพไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนจะเกิดขึ้นก็ตาม แค่นี้ลูกค้าก็จะรู้สึกประทับใจและชื่นชอบร้านของคุณมากขึ้นแล้ว
ข้อควรเลี่ยงสำหรับ Social Media
- ห้ามแสดงอาการหยาบคาย ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม แม้ว่าลูกค้าจะบ่นในเรื่องของอาหาร/บริการ ทางร้านควรคำนึงถึงชื่อเสียงและสื่อสารกับลูกค้าด้วยความสุภาพ เพราะยังไงก็ไม่คุ้มกับการโดนประณามบนโลกออนไลน์แน่ ๆ
- อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน ตอบข้อความลูกค้าให้เร็วที่สุดให้เหมือนกันการเสิร์ฟอาหารในร้านที่คุณมักจะทำอาหารและบริการเต็มที่เพื่อให้ลูกค้าได้ทานอาหารจานโปรดในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ซึ่งการบริการและโต้ตอบที่รวดเร็วนี้จะช่วยให้ลูกค้าประทับใจได้อีกทางหนึ่ง
- อย่าละเลยเพจ Facebook/IG ร้าน เมื่อมีเพจและไอจีร้านแล้วก็ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างจะจบลงตรงนั้น เพราะร้านอาหาร/คาเฟ่จะต้องโพสต์บน Social Media ร้านอย่างสม่ำเสมอเพื่ออัพเดตข่าวสาร สร้างตัวตน และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าบนโลกออนไลน์ จำไว้ว่าทุกคนบนโลกออนไลน์ถือเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสำหรับร้านอาหารคุณ
- มีเป้าหมาย การบุกเกม Social Media และขายอาหารออนไลน์ถือเป็นการทำธุรกิจรูปแบบใหม่สำหรับผู้ประกอบการหลายคน บางคนอาจจะมองว่ายาก แต่นี่คืออีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ร้านอาหาร/คาเฟ่ของคุณเดินไปข้างหน้าได้ โดยเฉพาะในยุค New Normal ที่ร้านไม่สามารถรองรับลูกค้าในร้านได้เท่าเดิม ดังนั้นอย่าลืมเป้าหมายของร้านและใช้ Social Media ให้เป็น เพื่อสร้างยอดขายเพิ่มให้กับร้าน
ขั้นตอนการติดต่อผู้ดูแลบัญชีของคุณเพื่อขอรับเทมเพลตจากเรา
หากคุณเป็นลูกค้าสโตร์ฮับและเปิดใช้งาน Beep Delivery เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะมีเทมเพลตเจ๋ง ๆ ให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร/คาเฟ่/เครื่องดื่มได้ใช้ทำรูป โพสต์บน Facebook และ Instagram ของร้าน
เพียงแค่แจ้งผู้ดูแลบัญชีของคุณ (Customer Care) เพื่อติดต่อขอรับเทมเพลต แล้วทีมของเราจะส่งลิงก์ให้คุณได้ใช้งานทันที
มีบริการ Food Delivery และอยากบอกให้ลูกค้าของคุณรู้ว่าที่ร้านใช้งาน Beep Delivery?
ไม่ต้องห่วง ! เพราะเรามีสติ๊กเกอร์ให้คุณใส่ในรูปอาหาร คราวนี้ลูกค้าของคุณก็จะสังเกตและรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาสามารถสั่งอาหารจานโปรดจากร้านของคุณผ่าน Beep Delivery ได้แล้ว
เพราะฉะนั้นมาเพิ่มยอดขายให้กับร้านด้วยบริการส่งอาหารเดลิเวอรี่แสนถูก แถมยังไม่ต้องจ่าย 35% กันเถอะ แล้วร้านของคุณก็จะมีเงินเหลือไว้ใช้ในส่วนอื่น ๆ มากกว่าแต่ก่อนแน่นอน !
