The Decorum หรือ เดอะ ดิคอรัม ร้านนำเข้าเสื้อผ้าผู้ชายที่รวมหลากหลายแบรนด์ของ Classic Menswear มาไว้ในที่เดียว มีทั้งเชิ้ต เนคไท รองเท้า พร้อมเครื่องแต่งกายต่าง ๆ ที่เนรมิตให้หนุ่ม ๆ ดูดีได้ในสไตล์สุดคลาสสิค หากใครเคยได้แวะไปร้าน The Decorum อารีย์ ก็คงจะจดจำบรรยากาศภายในร้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี
แล้วนอกจากเสื้อผ้าผู้ชายและสไตล์ที่แตกต่างนี้ล่ะ The Decorum มีอะไรเป็นตัวช่วยในการจัดการร้าน?
อะไรที่ทำให้ร้าน Classic Menswear แห่งนี้รับมือกับการขายสินค้าพร้อมฝ่าวิกฤตโควิดมาได้?
สโตร์ฮับของเรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณชวพัฒน์ Head of Business Development ของ The Decorum Bangkok และขอเคล็ดลับการทำร้านให้สำเร็จมาฝากเพื่อน ๆ ธุรกิจค้าปลีกแล้วที่นี่!
The Decorum แหล่งรวม Classic Menswear มัลติแบรนด์สำหรับผู้ชายดูดี

The Decorum ร้านดังย่านอารีย์ เป็นธุรกิจแนว Classic Menswear นำเข้าเสื้อผ้า รองเท้า และเครื่องแต่งกายชายจากทั่วโลก ทางร้านจะไปดีลสินค้ามาจากเมืองนอกโดยตรง มีทั้งรองเท้าจากอังกฤษอย่าง Crockett & Jones หรือเสื้อเชิ้ตคามาคุระ (Kamakura Shirt) จากญี่ปุ่น
และนอกจากเสื้อผ้ากับรองเท้าแล้ว The Decorum ยังมี Brift H แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลรองเท้าอันดับหนึ่งของโลก กระเป๋าหนังแฮนด์เมดจากอิตาลี หรือว่าจะเป็นเนคไท ที่เดอะ ดิคอรัมก็มีให้หนุ่ม ๆ เลือกสรรครบ จะเรียกว่าเป็นร้านครบวงจรของเครื่องแต่งกายและเสื้อผ้าผู้ชายเลยก็ว่าได้
ปัญหาในการดูแลจัดการร้านของ The Decorum ก่อนใช้ระบบ POS สโตร์ฮับ
คุณชวพัฒน์บอกกับเราว่า ก่อนหน้าที่ร้านจะใช้สโตร์ฮับทางร้านดูยอดขายและตัดสต๊อกสินค้าแบบแมนวล พนักงานจะพิมพ์รายการต่าง ๆ ลงในคอมพิวเตอร์หรือไม่ก็จดลงสมุด พอถึงสิ้นวันที่เป็นเวลาปิดร้านก็ค่อยสรุปยอดขายในแต่ละวันอีกที ถือว่าค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลามากอยู่เหมือนกัน
จัดการร้านราบรื่น ไร้ปัญหากวนใจแบบ The Decorum ด้วยตัวช่วยจากสโตร์ฮับ

หลังใช้ระบบสโตร์ฮับ คุณชวพัฒน์เผยกับเราว่า ระบบสามารถช่วยจัดการร้าน The Decorum ได้ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเช็คสต๊อกสินค้า, การจดจำและทำความรู้จักลูกค้า, รายงานยอดขาย, ดูทุกอย่างได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังช่วยให้ร้านจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้ง่ายขึ้น
และในส่วนของฟีเจอร์ในดวงใจที่คุณชวพัฒน์ชอบเป็นการส่วนตัวก็คือ
“ระบบ CRM ที่ง่ายต่อการ Follow up และมอบบริการเดลิเวอรี่ที่ดีให้กับลูกค้า เนื่องจากระบบนี้จะมีชื่อ วันเกิด พร้อมข้อมูลหรือประวัติการซื้อสินค้าของลูกค้า ทางร้านสามารถดูได้หมดเลยว่าลูกค้าเคยซื้อสินค้าอะไรไปบ้าง ก็ง่ายสำหรับเรา แล้วทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษเพราะเราสามารถจดจำลูกค้าได้”
กลยุทธ์การปรับตัวช่วงล็อคดาวน์ฉบับ The Decorum

ในช่วงล็อคดาวน์ที่ผ่านมา ทางร้านก็กังวลในเรื่องของยอดขายอยู่เหมือนกัน เพราะกลัวว่าจะไม่มีลูกค้ามาซื้อของที่ร้าน ทั้งยังมีเสื้อผ้าที่ใช้งานแต่งงานและใช้ในการทำงานด้วย ซึ่งเมื่อไม่ต้องไปทำงานที่ออฟฟิศ ไม่สามารถจัดงานแต่งงาน หรือว่าออกไปไหนได้ ก็จะไม่มีคนมาซื้อสินค้าจำพวกเนคไท รองเท้า และเสื้อผ้าที่ร้าน ตรงนี้เองที่ทำให้ทางร้าน The Decorum กังวลในเรื่องยอดขายมากเป็นพิเศษ แต่โชคดีที่ทางร้านเปิดขายออนไลน์กับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของ StoreHub ช่องทางรายได้เลยไม่โดนปิดตาย และคุณชวพัฒน์ก็บอกกับเราว่า
สำหรับผม ผมคิดว่าอีคอมเมิร์ซค่อนข้างมีส่วนสำคัญในธุรกิจสมัยนี้ ซึ่งในช่วงล็อคดาวน์ก็ทำให้เห็นได้ชัดว่ายอดขายเราเติบโตขึ้นจากช่องทางอีคอมเมิร์ซ
ส่วนวิธีการปรับตัวนั้น The Decorum มีการใช้ Social Media แพลตฟอร์มต่าง ๆ และมี Online Shopping บนเว็บไซต์หลักที่ลิงค์ไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของสโตร์ฮับ ช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าของ The Decorum บนเว็บได้โดยตรง และเว็บไซต์ที่ว่านี้ก็เป็นเว็บที่สนับสนุนโดยสโตร์ฮับ ทางร้านไม่ต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาเขียนโค้ดยุ่งยาก สามารถสร้างได้จากเทมเพลตจากทางสโตร์ฮับได้เลย
จะเห็นว่าแม้ช่องทางการขายหน้าร้านจะโดนปิดกั้น แต่ทางร้าน The Decorum ก็ยังมีช่องทางการขายออนไลน์ที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ในช่วงล็อคดาวน์ ดังนั้นการมีมากกว่า 1 ช่องทางการขายจึงจำเป็นอย่างมากในยุคนี้
ทั้งนี้หากมีเวลาก็สามารถแวะไปให้กำลังใจและเยี่ยมชมสินค้าที่ร้าน The Decorum ได้
- ที่อยู่ : 3 ซอย อารีย์สัมพันธ์ 5 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
- เวลาทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 12:00 น. – 20:00 น. เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11:00 น. – 20:00 น.
- เว็บไซต์ : https://www.thedecorumbkk.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/thedecorumbkk/
- Instagram: https://www.instagram.com/thedecorumbkk/
การจะทำร้านให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ได้มีแค่สินค้าเป็นตัวหลัก แต่ทางร้านต้องมีการจัดการร้านที่มีประสิทธิภาพ รู้จักกลุ่มลูกค้าและทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษของร้าน ที่สำคัญทางร้านอย่างต้องมีช่องทางการขายมากกว่า 1 เพื่อให้ร้านมีรายได้เข้ามาแม้เปิดขายหน้าร้านไม่ได้ อย่างร้าน The Decorum เองก็ถือว่าเป็นตัวอย่างการบริหารร้านยุคใหม่และยกระดับการบริการลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม แล้วร้านของคุณล่ะ เป็นยังไงบ้าง พร้อมก้าวไปอีกขั้นของการทำธุรกิจค้าปลีกแล้วหรือยัง?
บริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพด้วยสโตร์ฮับ
